ทำไมต้องฉีด Meso Fat ? ฉีดสลายไขมันจุดไหนได้บ้าง? ควรรู้ก่อนขึ้นเขียง
เคยไหม? มีเพื่อนๆ เริ่มทักว่าอ้วนขึ้น แต่ไม่ว่าจะออกกำลังกาย คุมอาหารอย่างเคร่งครัด พยายามหาวิธีจัดการขนาดไหน ไขมันส่วนเกินเหล่านี้ก็ยังไม่หายไปง่ายๆ จนทำให้ความเริ่มหมดมั่นใจลงไปเรื่อยๆ ถ้ามองหานวัตกรรมที่จะช่วยสลายไขมันทุกจุดที่ต้องการได้โดยไม่ต้องไปศัลยกรรมดูดไขมันหรือลงมีดหมอให้เจ็บ คงไม่พ้น “เมโสแฟต” ลดไขมันทุกส่วนได้ดั่งใจโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ
ข้อห้ามหลังฉีดเมโสแแฟต ที่หลายคนเข้าใจแบบผิดๆ
คำถามที่มีหลายคนอยากรู้คำตอบ สำหรับข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟต โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหาร อย่างเช่น
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานของหมักดองหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามนอนราบหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมหรือไม่?
สำหรับการรับประทานอาหาร จริงๆแล้วไม่มีข้อห้ามในการกินอย่างชัดเจนขนาดนั้น หลังฉีดคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย ส่วนอาหารหมักดอง ไม่ถึงขั้นเป็นข้อห้าม แต่ก็ไม่แนะนำเนื่องจากในอาหารหมักดอง อาจมีสารที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นตัวการของอาการบวม แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้การรับประทานก็ไม่เป็นอันตราย ส่วนหลังการฉีดเมโสแฟต สามารถนอนราบได้ หลังจาก 3-4 ชม. เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าชั้นไขมันได้เต็มที่ก่อน และหลังจาก 48 ชม. เมื่อรูเข็มปิดสนิท สามารถแต่งหน้า ขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ รวมไปถึงว่ายน้ำได้ตามปกติ และที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้มากๆอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายที่จะขับไขมันที่ถูกสลายออกจากร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น และอาหารเสริมหรือวิตามินที่ทานเป็นประจำก็สามารถทานได้เช่นเดิม
เมโสแฟต 1 ขวด กี่ cc ?
ปกติเมโสแฟต 1 ขวด มีปริมาณ 10 CC ปริมาณที่แนะนำในการฉีดขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน โดยก่อนฉีดคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่ต้องการ
เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?
ปัจจุบันเมโสแฟตในท้องตลาดมีด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละตัวก็มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่ Attitude Clinic แนะนำคือ Rosie จากประเทศเกาหลี เมโสแฟตน้องใหม่ ช่วยสลายไขมันได้ตรงจุดพร้อมบำรุงผิวเนียนใส ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่แสบ และหลังฉีดบวมน้อยกว่าโมโสแฟตยี่ห้อเก่าๆ ปริมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่มีในแต่ละบุคคล
เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเมโสแฟต แต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปัจจัยต่างๆ โดยทาง Attitude Clinic ราคาเมโสแฟต Rosie เริ่มต้นที่ 10 CC เหมาๆ 1 ขวด ราคา 4,990 บาท
ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ โปร 10 CC ราคา 3,490 บาท ซื้อ 30 CC แถมอีก 10 CC รวม 40 cc ในราคาเพียง 10,470 บาท คุ้มมากๆ ลดจุกๆ
เมโสแฟตที่ก่อให้เกิดอันตราย ห้ามฉีดเด็ดขาด
มีเมโสแฟตของจริง ก็ต้องมีของปลอมหรือตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน นำเข้าไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับ อย. ประเทศไทย ฉีดแล้วเกิดผลอันตรายตามมาได้
- ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) สารที่ใช้ในการสลายฟิลเลอร์นำมาใช้ผิดวิธี คือ เมื่อฉีดปริมาณมากส่งผลให้เกิดการสลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ชั้นใต้ผิวหนังเป็นโพรง เนื้อยุบตัวรวดเร็ว เห็นผลไว ดูเหมือนไขมันสลาย แต่ความจริงแล้วไขมันยังคงอยู่ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวหย่อน เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การฉีดเมโสแฟต ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ไว้ใจได้
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นยาทีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย แต่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป คลินิกหัวหมอมักนำมาฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะส่วน ฉีดแล้วลงไว ต้นทุนต่ำ ใช้ผิดวัตถุประสงค์ และต้อง ฉีดยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังบุ๋ม หรือหน้าบวม ร่างกายบวมได้
เลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ?
ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจก่อนเริ่มฉีดหรือทำหัตถการอะไรสักอย่าง ควรเลือกทำกับคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ทุกขั้นตอน รวมถึงมีทีมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับบริการในมาตรฐานเดียวกัน และต้องทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพสินค้าภายในคลินิกว่าเป็นของแท้ สามารถตรวจเช็คได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของปลอมหรือผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายจากการฉีดได้
ทั้งนี้ Attitude Clinic ทุกสาขา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคลินิกเสริมความงามที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐานการันตีรางวัลระดับประเทศ ที่สำคัญลูกค้าทุกท่านสามารถไว้วางใจ เชื่อมั่น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สวยหล่อต้องปลอดภัย ไว้ใจ Attitude Clinic ได้เลย
Q&A ตอบคำถามยอดฮิต
Q: เมโสแฟตลดแก้ม เหนียง หน้าเรียว ต้องฉีดกี่ครั้ง
จำนวนครั้งของการฉีดเมโสแฟต จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากไขมันมีปริมาณไม่เยอะ อาจฉีดแค่ 1-2 ครั้ง ถึงจะเห็นผล แต่หากคนที่มีไขมันหนา และสะสมอยู่มาก อาจจะต้องฉีด 4-5 ครั้ง เพื่อลดปริมาณไขมันลงตามต้องการ
Q: ฉีดเมโสแฟตเจ็บมั้ย
คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา แต่ก่อนฉีดจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บ กรณีที่กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมากๆ สามารถแจ้งแพทย์เพื่อแปะยาชาก่อนฉีดได้
Q: ฉีดเมโสแฟตเห็นผลในกี่วัน
หลังจากฉีดเมโสแฟต จะยังไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเนื่องจากหลังทำจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ เพราะตัวยาสารในเมโสแฟต จะเข้าไปทำกระบวนสลายไขมันได้อย่างเต็มที่ ก่อนขับออกมาเป็นของเสีย
Q: หลังฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมปกติหรือไม่ ? เกิดจากสาเหตุใด ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมเป็นปกติ เกิดจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไปนั้นจะซึมบริเวณที่ฉีด และยุบใน 2-3 ชั่วโมง บางรายอาจบวมได้ 1-2 วัน
Q: ทำไมฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
อาจเป็นเพราะว่าก่อนฉีด คนไข้ได้ฉีดยี่ห้อและตัวยาที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาและปริมาณไขมันที่เหมาะสมกับตนเอง รวมถึงการได้รับเมโสแฟตปลอมที่มีสารประกอบอันตรายต่อผิวหนัง ดังนั้นการพิจารณาเลือกฉีดเมโสแฟตจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนั่นเอง
ใครที่ห้ามฉีดเมโสแฟต ?
ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะสามารถฉีดเมโสแฟตได้ แต่การฉีดเมโสแฟต ก็มีข้อจำกัด ข้อควรระวังและกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้
- อายุต่ำว่า 18 ปี (หากอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่ต้องการฉีดควรได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง)
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลได้ไม่ดี ต้องให้อินซูลินเป็นประจำ
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- มีปัญหาสุขภาพต้องทานยาหลายตัวเป็นประจำ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ เต้นผิดจังหวะ
- ผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดอุดตัน ต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ข้อดี – ข้อเสีย เมโสแฟต (MESO FAT)
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
- ช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้รวดเร็วกว่าการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร
- ช่วยสลายไขมันได้เฉพาะจุดตามที่ต้องการ
- ราคาไม่แรงมาก เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ
- ใช้เวลาในการทำหัตการไม่นาน ประมาณ 15 นาที
- หลังฉีดไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- บวมช้ำน้อย (มีอาการบวมยาประมาณ 2-3 ชั่วโมงแรกเท่านั้น)
ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
- เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อาจจะต้องฉีดย้ำหลายครั้ง
- ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันส่วนเกินเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ปริมาณไขมันตามบริเวณต่างๆ เยอะ
- ไม่ได้ผลการรักษาถาวร ไขมันสามารถจับตัวขึ้นมาใหม่ได้เสมอเมื่อมีการสะสมใหม่
- ตัวยาบางตัวอาจทำให้ผิวหย่อนไม่ได้เพิ่มความกระชับ
ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลลัพธ์ได้ใน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 เดือน หากอยากยืดระยะเวลาผลลัพธ์ให้ได้นาน จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร หลังฉีดถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกินอาหารที่มีไขมันเยอะ เช่น ของทอด หันมาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดแฟต ปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ไขมันขับออกมามากที่สุด อย่างน้อย วันละ 2 ลิตร
- หลังจากฉีด สามารถทำหัตถการยกกระชับผิวร่วมด้วยได้ เพื่อให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย และเร่งการสลายไขมัน
- งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ ประมาณ 1 สัปดาห์
- สามารถออกกำลังกายได้ เพื่อช่วยสลายไขมัน อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป
- ไม่ควรกดนวดบริเวณที่ฉีด
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด เพื่อลดการสะสมไขมันใหม่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และรีดไขมันออกจากร่างกายได้มากขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดเมโสแแฟต ที่หลายคนเข้าใจแบบผิดๆ
คำถามที่มีหลายคนอยากรู้คำตอบ สำหรับข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟต โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหาร อย่างเช่น
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานของหมักดองหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามนอนราบหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมหรือไม่?
สำหรับการรับประทานอาหาร จริงๆแล้วไม่มีข้อห้ามในการกินอย่างชัดเจนขนาดนั้น หลังฉีดคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย ส่วนอาหารหมักดอง ไม่ถึงขั้นเป็นข้อห้าม แต่ก็ไม่แนะนำเนื่องจากในอาหารหมักดอง อาจมีสารที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นตัวการของอาการบวม แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้การรับประทานก็ไม่เป็นอันตราย ส่วนหลังการฉีดเมโสแฟต สามารถนอนราบได้ หลังจาก 3-4 ชม. เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าชั้นไขมันได้เต็มที่ก่อน และหลังจาก 48 ชม. เมื่อรูเข็มปิดสนิท สามารถแต่งหน้า ขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ รวมไปถึงว่ายน้ำได้ตามปกติ และที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้มากๆอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายที่จะขับไขมันที่ถูกสลายออกจากร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น และอาหารเสริมหรือวิตามินที่ทานเป็นประจำก็สามารถทานได้เช่นเดิม
เมโสแฟต 1 ขวด กี่ cc ?
ปกติเมโสแฟต 1 ขวด มีปริมาณ 10 CC ปริมาณที่แนะนำในการฉีดขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน โดยก่อนฉีดคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่ต้องการ
เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?
ปัจจุบันเมโสแฟตในท้องตลาดมีด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละตัวก็มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่ Attitude Clinic แนะนำคือ Rosie จากประเทศเกาหลี เมโสแฟตน้องใหม่ ช่วยสลายไขมันได้ตรงจุดพร้อมบำรุงผิวเนียนใส ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่แสบ และหลังฉีดบวมน้อยกว่าโมโสแฟตยี่ห้อเก่าๆ ปริมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่มีในแต่ละบุคคล
เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเมโสแฟต แต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปัจจัยต่างๆ โดยทาง Attitude Clinic ราคาเมโสแฟต Rosie เริ่มต้นที่ 10 CC เหมาๆ 1 ขวด ราคา 4,990 บาท
ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ โปร 10 CC ราคา 3,490 บาท ซื้อ 30 CC แถมอีก 10 CC รวม 40 cc ในราคาเพียง 10,470 บาท คุ้มมากๆ ลดจุกๆ
เมโสแฟตที่ก่อให้เกิดอันตราย ห้ามฉีดเด็ดขาด
มีเมโสแฟตของจริง ก็ต้องมีของปลอมหรือตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน นำเข้าไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับ อย. ประเทศไทย ฉีดแล้วเกิดผลอันตรายตามมาได้
- ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) สารที่ใช้ในการสลายฟิลเลอร์นำมาใช้ผิดวิธี คือ เมื่อฉีดปริมาณมากส่งผลให้เกิดการสลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ชั้นใต้ผิวหนังเป็นโพรง เนื้อยุบตัวรวดเร็ว เห็นผลไว ดูเหมือนไขมันสลาย แต่ความจริงแล้วไขมันยังคงอยู่ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวหย่อน เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การฉีดเมโสแฟต ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ไว้ใจได้
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นยาทีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย แต่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป คลินิกหัวหมอมักนำมาฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะส่วน ฉีดแล้วลงไว ต้นทุนต่ำ ใช้ผิดวัตถุประสงค์ และต้อง ฉีดยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังบุ๋ม หรือหน้าบวม ร่างกายบวมได้
เลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ?
ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจก่อนเริ่มฉีดหรือทำหัตถการอะไรสักอย่าง ควรเลือกทำกับคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ทุกขั้นตอน รวมถึงมีทีมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับบริการในมาตรฐานเดียวกัน และต้องทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพสินค้าภายในคลินิกว่าเป็นของแท้ สามารถตรวจเช็คได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของปลอมหรือผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายจากการฉีดได้
ทั้งนี้ Attitude Clinic ทุกสาขา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคลินิกเสริมความงามที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐานการันตีรางวัลระดับประเทศ ที่สำคัญลูกค้าทุกท่านสามารถไว้วางใจ เชื่อมั่น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สวยหล่อต้องปลอดภัย ไว้ใจ Attitude Clinic ได้เลย
Q&A ตอบคำถามยอดฮิต
Q: เมโสแฟตลดแก้ม เหนียง หน้าเรียว ต้องฉีดกี่ครั้ง
จำนวนครั้งของการฉีดเมโสแฟต จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากไขมันมีปริมาณไม่เยอะ อาจฉีดแค่ 1-2 ครั้ง ถึงจะเห็นผล แต่หากคนที่มีไขมันหนา และสะสมอยู่มาก อาจจะต้องฉีด 4-5 ครั้ง เพื่อลดปริมาณไขมันลงตามต้องการ
Q: ฉีดเมโสแฟตเจ็บมั้ย
คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา แต่ก่อนฉีดจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บ กรณีที่กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมากๆ สามารถแจ้งแพทย์เพื่อแปะยาชาก่อนฉีดได้
Q: ฉีดเมโสแฟตเห็นผลในกี่วัน
หลังจากฉีดเมโสแฟต จะยังไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเนื่องจากหลังทำจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ เพราะตัวยาสารในเมโสแฟต จะเข้าไปทำกระบวนสลายไขมันได้อย่างเต็มที่ ก่อนขับออกมาเป็นของเสีย
Q: หลังฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมปกติหรือไม่ ? เกิดจากสาเหตุใด ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมเป็นปกติ เกิดจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไปนั้นจะซึมบริเวณที่ฉีด และยุบใน 2-3 ชั่วโมง บางรายอาจบวมได้ 1-2 วัน
Q: ทำไมฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
อาจเป็นเพราะว่าก่อนฉีด คนไข้ได้ฉีดยี่ห้อและตัวยาที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาและปริมาณไขมันที่เหมาะสมกับตนเอง รวมถึงการได้รับเมโสแฟตปลอมที่มีสารประกอบอันตรายต่อผิวหนัง ดังนั้นการพิจารณาเลือกฉีดเมโสแฟตจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนั่นเอง
ไขมันส่วนเกิน เกิดจากอะไร ?
ไขมันส่วนเกิดจะถูกสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แก้ม เหนียง ต้นแขน เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย) ต้นขา หน้าท้อง และส่วนอื่นๆ เกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่
- การทานอาหารประเภทไขมันมากเกินไป อาหารประเภทไขมัน คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล หากทานเกินปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวันจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นไขมัน เมื่อสะสมนานขึ้น ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด เกิดเป็นไขมันส่วนเกิด
- เพศและอายุ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเราอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะลดลง และตามสถิติแล้วเพศชายจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากกว่าผู้หญิง ส่วนเพศหญิงจะเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ต้นขามากกว่า
- ไม่ค่อยออกกำลังกาย พฤติกรรมนั่งทำงานอยู่กับที่ เคลื่อนไหวร่างกายน้อย นั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็อาจเกิดไขมันสะสมได้
- กรรมพันธุ์ หลายคนที่มีปัญหาโรคอ้วน มีไขมันส่วนเกิน เช่น เหนียงย้วยๆ ที่ลดยากมาก อาจเกิดจากกรรมพันธ์ุ หากพ่อแม่มีภาวะโรคอ้วน มีความเสี่ยงถึง 25% ที่ลูกจะอ้วนด้วยเช่นกัน
ทำไมต้องฉีดเมโสแฟต ?
การฉีดเมโสแฟต นับว่าเป็นการสลายไขมันที่ตรงจุดตามบริเวณที่ต้องการได้ดี เร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ ช่วยปรับรูปหน้า ลดสัดส่วนที่มีไขมันส่วนเกินในราคาย่อมเยาว์ เมื่อเทียบกับหัตการลดไขมันอื่นๆ เช่น เครื่องยกกระชับใบหน้าอย่าง Hifu หรือเครื่องยกกนะชับส่วนส่วนร่างกาย
นอกจากนี้ตัวช่วยอื่นๆ ในการปรับรูปหน้าเรียว วีเชฟ ก็จะมีสารคลายกล้ามเนื้ออย่าง Botulinum Toxin หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Botox (โบท็อกซ์) สามารถช่วยให้หน้าเรียวได้เหมือนกัน แต่กระบวนการทำงานจะต่างกัน เพราะสารคลายกล้ามเนื้อไม่ช่วยในการสลายไขมันแต่เป็นการการทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลง ดังนั้นหากใครไขมันเยอะ แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
กระบวนการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันส่วนเกิน มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกินและปัญหาที่อยากยกกระชับสัดส่วน
- แพทย์ประเมินจุดที่ต้องรักษา ยี่ห้อเมโสแฟต ปริมาณที่ใช้ จำนวนครั้งในการฉีดให้เห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ รวมถึงข้อปฏิบัตตัวหลังฉีด
- ผู้เข้ารับบริการจะได้ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต และมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะ กรณีที่กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมากๆ สามารถแจ้งแพทย์เพื่อแปะยาชาก่อนฉีดได้
- หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มฉีดตัวยาเมโสแฟตให้ตามปริมาณที่เหมาะสม ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ใครที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต ?
เมโสแฟต เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกิน ต้องการลดไขมัน ปรับรูปหน้าและลดสัดส่วน เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง อย่างรวดเร็ว ภายใน 1-2 สัปดาห์ ด้วยตัวยาสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัย ในราคาย่อมเยาว์ ฉีดต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง ก็ได้ผลลัพธ์ชัดเจนตามที่ต้องการ
ใครที่ห้ามฉีดเมโสแฟต ?
ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะสามารถฉีดเมโสแฟตได้ แต่การฉีดเมโสแฟต ก็มีข้อจำกัด ข้อควรระวังและกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้
- อายุต่ำว่า 18 ปี (หากอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่ต้องการฉีดควรได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง)
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลได้ไม่ดี ต้องให้อินซูลินเป็นประจำ
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- มีปัญหาสุขภาพต้องทานยาหลายตัวเป็นประจำ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ เต้นผิดจังหวะ
- ผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดอุดตัน ต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ข้อดี – ข้อเสีย เมโสแฟต (MESO FAT)
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
- ช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้รวดเร็วกว่าการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร
- ช่วยสลายไขมันได้เฉพาะจุดตามที่ต้องการ
- ราคาไม่แรงมาก เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ
- ใช้เวลาในการทำหัตการไม่นาน ประมาณ 15 นาที
- หลังฉีดไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- บวมช้ำน้อย (มีอาการบวมยาประมาณ 2-3 ชั่วโมงแรกเท่านั้น)
ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
- เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อาจจะต้องฉีดย้ำหลายครั้ง
- ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันส่วนเกินเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ปริมาณไขมันตามบริเวณต่างๆ เยอะ
- ไม่ได้ผลการรักษาถาวร ไขมันสามารถจับตัวขึ้นมาใหม่ได้เสมอเมื่อมีการสะสมใหม่
- ตัวยาบางตัวอาจทำให้ผิวหย่อนไม่ได้เพิ่มความกระชับ
ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลลัพธ์ได้ใน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 เดือน หากอยากยืดระยะเวลาผลลัพธ์ให้ได้นาน จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร หลังฉีดถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกินอาหารที่มีไขมันเยอะ เช่น ของทอด หันมาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดแฟต ปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ไขมันขับออกมามากที่สุด อย่างน้อย วันละ 2 ลิตร
- หลังจากฉีด สามารถทำหัตถการยกกระชับผิวร่วมด้วยได้ เพื่อให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย และเร่งการสลายไขมัน
- งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ ประมาณ 1 สัปดาห์
- สามารถออกกำลังกายได้ เพื่อช่วยสลายไขมัน อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป
- ไม่ควรกดนวดบริเวณที่ฉีด
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด เพื่อลดการสะสมไขมันใหม่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และรีดไขมันออกจากร่างกายได้มากขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดเมโสแแฟต ที่หลายคนเข้าใจแบบผิดๆ
คำถามที่มีหลายคนอยากรู้คำตอบ สำหรับข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟต โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหาร อย่างเช่น
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานของหมักดองหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามนอนราบหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมหรือไม่?
สำหรับการรับประทานอาหาร จริงๆแล้วไม่มีข้อห้ามในการกินอย่างชัดเจนขนาดนั้น หลังฉีดคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย ส่วนอาหารหมักดอง ไม่ถึงขั้นเป็นข้อห้าม แต่ก็ไม่แนะนำเนื่องจากในอาหารหมักดอง อาจมีสารที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นตัวการของอาการบวม แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้การรับประทานก็ไม่เป็นอันตราย ส่วนหลังการฉีดเมโสแฟต สามารถนอนราบได้ หลังจาก 3-4 ชม. เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าชั้นไขมันได้เต็มที่ก่อน และหลังจาก 48 ชม. เมื่อรูเข็มปิดสนิท สามารถแต่งหน้า ขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ รวมไปถึงว่ายน้ำได้ตามปกติ และที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้มากๆอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายที่จะขับไขมันที่ถูกสลายออกจากร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น และอาหารเสริมหรือวิตามินที่ทานเป็นประจำก็สามารถทานได้เช่นเดิม
เมโสแฟต 1 ขวด กี่ cc ?
ปกติเมโสแฟต 1 ขวด มีปริมาณ 10 CC ปริมาณที่แนะนำในการฉีดขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน โดยก่อนฉีดคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่ต้องการ
เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?
ปัจจุบันเมโสแฟตในท้องตลาดมีด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละตัวก็มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่ Attitude Clinic แนะนำคือ Rosie จากประเทศเกาหลี เมโสแฟตน้องใหม่ ช่วยสลายไขมันได้ตรงจุดพร้อมบำรุงผิวเนียนใส ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่แสบ และหลังฉีดบวมน้อยกว่าโมโสแฟตยี่ห้อเก่าๆ ปริมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่มีในแต่ละบุคคล
เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเมโสแฟต แต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปัจจัยต่างๆ โดยทาง Attitude Clinic ราคาเมโสแฟต Rosie เริ่มต้นที่ 10 CC เหมาๆ 1 ขวด ราคา 4,990 บาท
ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ โปร 10 CC ราคา 3,490 บาท ซื้อ 30 CC แถมอีก 10 CC รวม 40 cc ในราคาเพียง 10,470 บาท คุ้มมากๆ ลดจุกๆ
เมโสแฟตที่ก่อให้เกิดอันตราย ห้ามฉีดเด็ดขาด
มีเมโสแฟตของจริง ก็ต้องมีของปลอมหรือตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน นำเข้าไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับ อย. ประเทศไทย ฉีดแล้วเกิดผลอันตรายตามมาได้
- ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) สารที่ใช้ในการสลายฟิลเลอร์นำมาใช้ผิดวิธี คือ เมื่อฉีดปริมาณมากส่งผลให้เกิดการสลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ชั้นใต้ผิวหนังเป็นโพรง เนื้อยุบตัวรวดเร็ว เห็นผลไว ดูเหมือนไขมันสลาย แต่ความจริงแล้วไขมันยังคงอยู่ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวหย่อน เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การฉีดเมโสแฟต ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ไว้ใจได้
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นยาทีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย แต่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป คลินิกหัวหมอมักนำมาฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะส่วน ฉีดแล้วลงไว ต้นทุนต่ำ ใช้ผิดวัตถุประสงค์ และต้อง ฉีดยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังบุ๋ม หรือหน้าบวม ร่างกายบวมได้
เลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ?
ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจก่อนเริ่มฉีดหรือทำหัตถการอะไรสักอย่าง ควรเลือกทำกับคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ทุกขั้นตอน รวมถึงมีทีมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับบริการในมาตรฐานเดียวกัน และต้องทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพสินค้าภายในคลินิกว่าเป็นของแท้ สามารถตรวจเช็คได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของปลอมหรือผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายจากการฉีดได้
ทั้งนี้ Attitude Clinic ทุกสาขา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคลินิกเสริมความงามที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐานการันตีรางวัลระดับประเทศ ที่สำคัญลูกค้าทุกท่านสามารถไว้วางใจ เชื่อมั่น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สวยหล่อต้องปลอดภัย ไว้ใจ Attitude Clinic ได้เลย
Q&A ตอบคำถามยอดฮิต
Q: เมโสแฟตลดแก้ม เหนียง หน้าเรียว ต้องฉีดกี่ครั้ง
จำนวนครั้งของการฉีดเมโสแฟต จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากไขมันมีปริมาณไม่เยอะ อาจฉีดแค่ 1-2 ครั้ง ถึงจะเห็นผล แต่หากคนที่มีไขมันหนา และสะสมอยู่มาก อาจจะต้องฉีด 4-5 ครั้ง เพื่อลดปริมาณไขมันลงตามต้องการ
Q: ฉีดเมโสแฟตเจ็บมั้ย
คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา แต่ก่อนฉีดจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บ กรณีที่กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมากๆ สามารถแจ้งแพทย์เพื่อแปะยาชาก่อนฉีดได้
Q: ฉีดเมโสแฟตเห็นผลในกี่วัน
หลังจากฉีดเมโสแฟต จะยังไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเนื่องจากหลังทำจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ เพราะตัวยาสารในเมโสแฟต จะเข้าไปทำกระบวนสลายไขมันได้อย่างเต็มที่ ก่อนขับออกมาเป็นของเสีย
Q: หลังฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมปกติหรือไม่ ? เกิดจากสาเหตุใด ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมเป็นปกติ เกิดจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไปนั้นจะซึมบริเวณที่ฉีด และยุบใน 2-3 ชั่วโมง บางรายอาจบวมได้ 1-2 วัน
Q: ทำไมฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
อาจเป็นเพราะว่าก่อนฉีด คนไข้ได้ฉีดยี่ห้อและตัวยาที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาและปริมาณไขมันที่เหมาะสมกับตนเอง รวมถึงการได้รับเมโสแฟตปลอมที่มีสารประกอบอันตรายต่อผิวหนัง ดังนั้นการพิจารณาเลือกฉีดเมโสแฟตจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนั่นเอง
เมโสแฟต คืออะไร ?
เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาที่สามารถช่วยสลายไขมันได้แบบเฉพาะจุด ฉีดสลายโดยตรงที่ชั้นไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งช่วยกระชับและลดสัดส่วนให้ได้ตามต้องการใช้ตัวยาเมโสแฟตช่วยให้ไขมันแตกตัวสลายตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง ผิวกระชับและมีขนาดเล็กลงได้มาดูส่วนผสมในเมโสแฟตที่ช่วยลดไขมันส่วนเกิน และลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ ได้แก่
- เมโสสตาบิล (Mesostabyl) ช่วยลดการเกิดคอเลสเตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อและเซลล์ไขมันใหม่
- แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ช่วยเปลี่ยนเซลล์ไขมันให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง
- สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) ช่วยลดระดับไขมันแบบเฉพาะจุดและการสร้างกรดไขมัน
- ไทโรซีน (Tyrosine) ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันของร่างกายให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
เมโสแฟตทำงานยังไง ?
หลักการทำงานของเมโสแฟต (Meso Fat) เมื่อฉีดตัวยาจะช่วยไขมันแตกตัวเป็นขนาดเล็ก หรือเรียกอีกอย่างว่าสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง
การฉีดเมโสแฟตจะช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของเมแทบอลิซึม (Metabolism) กลไลเร่งสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย และสาร แอล คาร์นิทีน (L-carnitine) ช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (Fat Burn) จึงมีสรรพคุณย่อยสลายไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ที่สะสมในชั้นไขมันได้อย่างตรงจุด
ไขมันส่วนเกิน เกิดจากอะไร ?
ไขมันส่วนเกิดจะถูกสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แก้ม เหนียง ต้นแขน เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย) ต้นขา หน้าท้อง และส่วนอื่นๆ เกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่
- การทานอาหารประเภทไขมันมากเกินไป อาหารประเภทไขมัน คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล หากทานเกินปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวันจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นไขมัน เมื่อสะสมนานขึ้น ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด เกิดเป็นไขมันส่วนเกิด
- เพศและอายุ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเราอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะลดลง และตามสถิติแล้วเพศชายจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากกว่าผู้หญิง ส่วนเพศหญิงจะเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ต้นขามากกว่า
- ไม่ค่อยออกกำลังกาย พฤติกรรมนั่งทำงานอยู่กับที่ เคลื่อนไหวร่างกายน้อย นั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็อาจเกิดไขมันสะสมได้
- กรรมพันธุ์ หลายคนที่มีปัญหาโรคอ้วน มีไขมันส่วนเกิน เช่น เหนียงย้วยๆ ที่ลดยากมาก อาจเกิดจากกรรมพันธ์ุ หากพ่อแม่มีภาวะโรคอ้วน มีความเสี่ยงถึง 25% ที่ลูกจะอ้วนด้วยเช่นกัน
ทำไมต้องฉีดเมโสแฟต ?
การฉีดเมโสแฟต นับว่าเป็นการสลายไขมันที่ตรงจุดตามบริเวณที่ต้องการได้ดี เร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ ช่วยปรับรูปหน้า ลดสัดส่วนที่มีไขมันส่วนเกินในราคาย่อมเยาว์ เมื่อเทียบกับหัตการลดไขมันอื่นๆ เช่น เครื่องยกกระชับใบหน้าอย่าง Hifu หรือเครื่องยกกนะชับส่วนส่วนร่างกาย
นอกจากนี้ตัวช่วยอื่นๆ ในการปรับรูปหน้าเรียว วีเชฟ ก็จะมีสารคลายกล้ามเนื้ออย่าง Botulinum Toxin หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Botox (โบท็อกซ์) สามารถช่วยให้หน้าเรียวได้เหมือนกัน แต่กระบวนการทำงานจะต่างกัน เพราะสารคลายกล้ามเนื้อไม่ช่วยในการสลายไขมันแต่เป็นการการทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลง ดังนั้นหากใครไขมันเยอะ แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
กระบวนการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันส่วนเกิน มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกินและปัญหาที่อยากยกกระชับสัดส่วน
- แพทย์ประเมินจุดที่ต้องรักษา ยี่ห้อเมโสแฟต ปริมาณที่ใช้ จำนวนครั้งในการฉีดให้เห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ รวมถึงข้อปฏิบัตตัวหลังฉีด
- ผู้เข้ารับบริการจะได้ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต และมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะ กรณีที่กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมากๆ สามารถแจ้งแพทย์เพื่อแปะยาชาก่อนฉีดได้
- หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มฉีดตัวยาเมโสแฟตให้ตามปริมาณที่เหมาะสม ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ใครที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต ?
เมโสแฟต เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกิน ต้องการลดไขมัน ปรับรูปหน้าและลดสัดส่วน เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง อย่างรวดเร็ว ภายใน 1-2 สัปดาห์ ด้วยตัวยาสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัย ในราคาย่อมเยาว์ ฉีดต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง ก็ได้ผลลัพธ์ชัดเจนตามที่ต้องการ
ใครที่ห้ามฉีดเมโสแฟต ?
ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะสามารถฉีดเมโสแฟตได้ แต่การฉีดเมโสแฟต ก็มีข้อจำกัด ข้อควรระวังและกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้
- อายุต่ำว่า 18 ปี (หากอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่ต้องการฉีดควรได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง)
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลได้ไม่ดี ต้องให้อินซูลินเป็นประจำ
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- มีปัญหาสุขภาพต้องทานยาหลายตัวเป็นประจำ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ เต้นผิดจังหวะ
- ผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดอุดตัน ต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ข้อดี – ข้อเสีย เมโสแฟต (MESO FAT)
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
- ช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้รวดเร็วกว่าการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร
- ช่วยสลายไขมันได้เฉพาะจุดตามที่ต้องการ
- ราคาไม่แรงมาก เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ
- ใช้เวลาในการทำหัตการไม่นาน ประมาณ 15 นาที
- หลังฉีดไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- บวมช้ำน้อย (มีอาการบวมยาประมาณ 2-3 ชั่วโมงแรกเท่านั้น)
ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
- เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อาจจะต้องฉีดย้ำหลายครั้ง
- ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันส่วนเกินเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ปริมาณไขมันตามบริเวณต่างๆ เยอะ
- ไม่ได้ผลการรักษาถาวร ไขมันสามารถจับตัวขึ้นมาใหม่ได้เสมอเมื่อมีการสะสมใหม่
- ตัวยาบางตัวอาจทำให้ผิวหย่อนไม่ได้เพิ่มความกระชับ
ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลลัพธ์ได้ใน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 เดือน หากอยากยืดระยะเวลาผลลัพธ์ให้ได้นาน จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร หลังฉีดถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกินอาหารที่มีไขมันเยอะ เช่น ของทอด หันมาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดแฟต ปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ไขมันขับออกมามากที่สุด อย่างน้อย วันละ 2 ลิตร
- หลังจากฉีด สามารถทำหัตถการยกกระชับผิวร่วมด้วยได้ เพื่อให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย และเร่งการสลายไขมัน
- งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ ประมาณ 1 สัปดาห์
- สามารถออกกำลังกายได้ เพื่อช่วยสลายไขมัน อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป
- ไม่ควรกดนวดบริเวณที่ฉีด
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด เพื่อลดการสะสมไขมันใหม่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และรีดไขมันออกจากร่างกายได้มากขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดเมโสแแฟต ที่หลายคนเข้าใจแบบผิดๆ
คำถามที่มีหลายคนอยากรู้คำตอบ สำหรับข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟต โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหาร อย่างเช่น
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานของหมักดองหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามนอนราบหรือไม่?
- หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมหรือไม่?
สำหรับการรับประทานอาหาร จริงๆแล้วไม่มีข้อห้ามในการกินอย่างชัดเจนขนาดนั้น หลังฉีดคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย ส่วนอาหารหมักดอง ไม่ถึงขั้นเป็นข้อห้าม แต่ก็ไม่แนะนำเนื่องจากในอาหารหมักดอง อาจมีสารที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นตัวการของอาการบวม แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้การรับประทานก็ไม่เป็นอันตราย ส่วนหลังการฉีดเมโสแฟต สามารถนอนราบได้ หลังจาก 3-4 ชม. เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าชั้นไขมันได้เต็มที่ก่อน และหลังจาก 48 ชม. เมื่อรูเข็มปิดสนิท สามารถแต่งหน้า ขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ รวมไปถึงว่ายน้ำได้ตามปกติ และที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้มากๆอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายที่จะขับไขมันที่ถูกสลายออกจากร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น และอาหารเสริมหรือวิตามินที่ทานเป็นประจำก็สามารถทานได้เช่นเดิม
เมโสแฟต 1 ขวด กี่ cc ?
ปกติเมโสแฟต 1 ขวด มีปริมาณ 10 CC ปริมาณที่แนะนำในการฉีดขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน โดยก่อนฉีดคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่ต้องการ
เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?
ปัจจุบันเมโสแฟตในท้องตลาดมีด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละตัวก็มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่ Attitude Clinic แนะนำคือ Rosie จากประเทศเกาหลี เมโสแฟตน้องใหม่ ช่วยสลายไขมันได้ตรงจุดพร้อมบำรุงผิวเนียนใส ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่แสบ และหลังฉีดบวมน้อยกว่าโมโสแฟตยี่ห้อเก่าๆ ปริมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่มีในแต่ละบุคคล
เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเมโสแฟต แต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปัจจัยต่างๆ โดยทาง Attitude Clinic ราคาเมโสแฟต Rosie เริ่มต้นที่ 10 CC เหมาๆ 1 ขวด ราคา 4,990 บาท
ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ โปร 10 CC ราคา 3,490 บาท ซื้อ 30 CC แถมอีก 10 CC รวม 40 cc ในราคาเพียง 10,470 บาท คุ้มมากๆ ลดจุกๆ
เมโสแฟตที่ก่อให้เกิดอันตราย ห้ามฉีดเด็ดขาด
มีเมโสแฟตของจริง ก็ต้องมีของปลอมหรือตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน นำเข้าไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับ อย. ประเทศไทย ฉีดแล้วเกิดผลอันตรายตามมาได้
- ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) สารที่ใช้ในการสลายฟิลเลอร์นำมาใช้ผิดวิธี คือ เมื่อฉีดปริมาณมากส่งผลให้เกิดการสลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ชั้นใต้ผิวหนังเป็นโพรง เนื้อยุบตัวรวดเร็ว เห็นผลไว ดูเหมือนไขมันสลาย แต่ความจริงแล้วไขมันยังคงอยู่ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวหย่อน เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การฉีดเมโสแฟต ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ไว้ใจได้
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นยาทีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย แต่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป คลินิกหัวหมอมักนำมาฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะส่วน ฉีดแล้วลงไว ต้นทุนต่ำ ใช้ผิดวัตถุประสงค์ และต้อง ฉีดยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังบุ๋ม หรือหน้าบวม ร่างกายบวมได้
เลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ?
ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจก่อนเริ่มฉีดหรือทำหัตถการอะไรสักอย่าง ควรเลือกทำกับคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ทุกขั้นตอน รวมถึงมีทีมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับบริการในมาตรฐานเดียวกัน และต้องทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพสินค้าภายในคลินิกว่าเป็นของแท้ สามารถตรวจเช็คได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของปลอมหรือผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายจากการฉีดได้
ทั้งนี้ Attitude Clinic ทุกสาขา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคลินิกเสริมความงามที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐานการันตีรางวัลระดับประเทศ ที่สำคัญลูกค้าทุกท่านสามารถไว้วางใจ เชื่อมั่น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สวยหล่อต้องปลอดภัย ไว้ใจ Attitude Clinic ได้เลย
Q&A ตอบคำถามยอดฮิต
Q: เมโสแฟตลดแก้ม เหนียง หน้าเรียว ต้องฉีดกี่ครั้ง
จำนวนครั้งของการฉีดเมโสแฟต จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากไขมันมีปริมาณไม่เยอะ อาจฉีดแค่ 1-2 ครั้ง ถึงจะเห็นผล แต่หากคนที่มีไขมันหนา และสะสมอยู่มาก อาจจะต้องฉีด 4-5 ครั้ง เพื่อลดปริมาณไขมันลงตามต้องการ
Q: ฉีดเมโสแฟตเจ็บมั้ย
คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา แต่ก่อนฉีดจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บ กรณีที่กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมากๆ สามารถแจ้งแพทย์เพื่อแปะยาชาก่อนฉีดได้
Q: ฉีดเมโสแฟตเห็นผลในกี่วัน
หลังจากฉีดเมโสแฟต จะยังไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเนื่องจากหลังทำจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ เพราะตัวยาสารในเมโสแฟต จะเข้าไปทำกระบวนสลายไขมันได้อย่างเต็มที่ ก่อนขับออกมาเป็นของเสีย
Q: หลังฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมปกติหรือไม่ ? เกิดจากสาเหตุใด ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมเป็นปกติ เกิดจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไปนั้นจะซึมบริเวณที่ฉีด และยุบใน 2-3 ชั่วโมง บางรายอาจบวมได้ 1-2 วัน
Q: ทำไมฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
อาจเป็นเพราะว่าก่อนฉีด คนไข้ได้ฉีดยี่ห้อและตัวยาที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาและปริมาณไขมันที่เหมาะสมกับตนเอง รวมถึงการได้รับเมโสแฟตปลอมที่มีสารประกอบอันตรายต่อผิวหนัง ดังนั้นการพิจารณาเลือกฉีดเมโสแฟตจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนั่นเอง