ฟิลเลอร์ Juvederm ยี่ห้อนี้ดีไหม? เหมาะกับการฉีดบริเวณไหนบ้าง? รู้ไว้ไม่เฟลตอนเจอหมอ

ฟิลเลอร์ Juvederm ยี่ห้อนี้ดีไหม? เหมาะกับการฉีดบริเวณไหนบ้าง? รู้ไว้ไม่เฟลตอนเจอหมอ

ฟิลเลอร์ Juvederm ยี่ห้อนี้ดีไหม? เหมาะกับการฉีดบริเวณไหนบ้าง? รู้ไว้ไม่เฟลตอนเจอหมอ

ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) มีคุณสมบัติเด่น ช่วยกักเก็บน้ำ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และสามารถฉีดเติมเต็มเสริมชั้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่น รวมถึงปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย ให้ใบหน้ากลับมาอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในวงการความงาม ถูกใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

ฟิลเลอร์มีมากมายหลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อแม้จะเป็นประเภท Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่ก็จะมีเทคโนโลยี ขั้นตอนในการผลิต และจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ต่างกัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นก็เหมาะในการใช้ฉีดในจุดที่แตกต่างกัน

สำหรับฟิลเลอร์ Juvederm ฟิลเลอร์คุณภาพสูงจากอเมริกา มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เนื้อฟิลเลอร์เนียนละเอียด มีหลากหลายรุ่น เลือกฉีดได้ทุกจุดบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ ปาก คาง ฉีดกรอบหน้าชัด โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำปรึกษา และประเมินปริมาณที่ต้องใช้ และจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ก่อนทุกเคส

ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงามในการนำมาใช้เติมเต็มปรับรูปหน้า แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นฟิลเลอร์ของกลุ่ม Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand บริษัทเดียวกับโบท็อกซ์ลดริ้วรอยยอดนิยมอย่าง โบ Allergan

ผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นสารที่ใช้เติมเต็มใต้ผิวหนังในกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มปริมาตร ยกกระชับใช้ในการปรับรูปหน้าให้ดูได้สัดส่วนมากขึ้น เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูเรียบเนียนอ่อนเยาว์ เป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ปลอดภัยสูง ไม่ตกค้างเหลือในร่างกาย

ฟิลเลอร์ Juvederm ผ่านการรับรองจาก อย.อเมริกา (US FDA) และ อย.ไทย (Thai FDA) ถือว่าเป็นฟิลเลอร์เจ้าดัง ที่แพทย์ทั่วโลกไว้วางใจ เชื่อมั่นนำมาใช้ในการเสริมความงาม เติมเต็มปรับรูปหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ตรงความต้องการที่สุด

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm ?

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm ?

ฟิลเลอร์ Juvederm มีจุดเด่นมากมายหลายข้อ ทั้งการเป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง ถูกแบบให้ผสมยาชา (Lidocaine) ช่วยให้การฉีดสบาย ลดความเจ็บปวด และ 2 เทคโนโลยีการผลิตคุณภาพ คือ Vycross Technology และ Hylacross

Vycross เทคโนโลยีใหม่ทันสมัย ลิขสิทธิ์เฉพาะ Allergan เท่านั้น

ฟิลเลอร์ Juvederm ถูกผลิตด้วย 2 เทคโนโลยี โดย Vycross Tecnology เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คุณสมบัติเด่นเรื่องการยกกระชับมีโมเลกุลยึดเกาะอย่างเหนียวแน่น เติมเต็มปรับรูปหน้าทุกบริเวณ และพัฒนาให้ฟิลเลอร์มีโมเลกุลบวมน้ำน้อยลง ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

ด้วยอัตราการบวมน้ำน้อยมากเมื่อได้นำมาเทียบกับ HA ตัวอื่นๆ และความยาวนานของผลลัพธ์สูงสุดถึง 24 เดือนได้แก่รุ่น Volux ,Voluma, Volift, Vobella และ Volite

ส่วน Hylacross Tecnology เทคโนโลยีดั้งเดิมของฟิลเลอร์ Juvederm ที่มีคุณสมบัติค่าความอุ้มน้ำได้ดีมาก ฉีดแล้วอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องลึกมากเป็นพิเศษ เช่น แก้มตอบ ร่องแก้ม ฉีด 1 cc จะสามารถฟูได้ถึง 1.5 cc และตัว HA จะมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ และจะเหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเนื้อในบริเวณที่ผิวได้มีการขยับบ่อยๆ

โดยฟิลเลอร์ในกลุ่ม Hylacross Tecnology แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญ เนื่องจากถ้าฉีดเติมเต็มเยอะเกินไป อาจจะทำให้ใบหน้าบวม หรือเป็นก้อนได้ ความยาวนานข้องผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่าเล็กน้อย อย่างเช่น ร่องแก้ม มุมปาก แก้มตอบ แต่การยึดเกาะไม่ดีเท่าเทคโนโลยี Vycross และผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานมาก ฟิลเลอร์ Juvederm กลุ่ม Hylacross ได้แก่รุ่น Ultra XC และ Ultra plus XC เป็นต้น

 

ฟิลเลอร์ Juvederm ที่ Attitude Clinic  มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นอยู่ได้นานแค่ไหน? ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ฟิลเลอร์ Juvederm ที่ Attitude Clinic มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นอยู่ได้นานแค่ไหน? ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ฟิลเลอร์ Juvederm ผลิตออกมาหลายรุ่นในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน รวมถึงฟิลเลอร์ Juvederm ใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแตกต่างกันด้วยเพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนำมาใช้ในแต่ละบริเวณอย่างเหมาะสม โดยปกติทาง Attitude Clinic จะมี 5 รุ่น ดังนี้

  • Juvederm Volift

เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม เนียนละเอียด เหมาะสำหรับผู้ที่อยากฉีดบริเวณร่องลึกต่างๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ ขมับ รวมไปถึงฉีดบริเวณใต้ตาชั้นลึกเพื่อแก้ไขถุงใต้ตา ปรับรูปทรงปาก เพิ่มวอลลุ่มปาก หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

  • Juvederm Voluma

เป็นรุ่นที่มีลักษณะยืดหยุ่นสูง เนื้อแข็งคงทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากฉีดบริเวณขมับ แก้มตอบ แก้มส้ม เติมร่องแก้ม ปรับคางให้ดูละมุน ยกมุมปากตก หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

  • Juvederm Volux

เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาออกมาล่าสุด เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งคงทน อีกทั้งยังมีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่อยากปรับแนวกระดูกบริเวณกราม ขากรรไกรและปรับรูปทรงคาง เพิ่มความยาว ฉีดเติมขมับยุบตัว หรือร่องแก้มชั้นลึก หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

  • Juvederm Volbella

เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด จึงเหมาะกับการเติมบริเวณใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นและปรับทรงให้แก่ริมฝีปาก หรือหน้าผาก ที่ต้องการความเรียบเนียน หลังฉีดจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนอย่างแน่นอน สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน

  • Juvederm Volite

เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อละเอียดบางเบามากที่สุด นิยมฉีดสายงานผิว บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว สุขภาพดี ฉีดแก้ไขริ้วรอยเล็กๆ บนผิวได้ดี หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 8-12 เดือน

ดังนั้น ฟิลเลอร์ Juvederm จึงเป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ถูกนำมาใช้เสริมความงามกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถนำไปฉีดได้หลากหลายบริเวณ ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm จะดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน

สามารถฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ร่วมกับแบรนด์อื่นได้ไหม?

สามารถฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ร่วมไปกับฟิลเลอร์แบรนด์อื่นได้ในครั้งเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ใช้ฟิลเลอร์ Juvederm สำหรับฉีดบริเวณใต้ตา ยกผิวชั้นลึกให้ตื้นขึ้น และใช้แบรนด์อื่น เช่น Restylane ฉีดบริเวณใต้ตาชั้นตื้น เก็บผิวให้เนียน ลดริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา

หรือคนไข้บางท่านเคยฉีดฟิลเลอร์แบรนด์อื่นมาก่อนหน้า และอยากเติมฟิลเลอร์ Juvederm ในบริเวณเดียวกันก็สามารถทำได้ โดยคุณหมอแนะนำให้เว้นจากการฉีดครั้งก่อนหน้ามาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ฟิลเลอร์ก่อนหน้าหายบวมและกลืนกับผิวดีก่อน

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • เริ่มจากศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด รวมทั้งให้เวลาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของคลินิกฉีดฟิลเลอร์ เพราะประสบการณ์ของแพทย์ประจำคลินิกที่ทำเคสต่างๆ นั้นจะแตกต่างกัน รวมไปถึงดูรีวิวจากผู้ใช้จริงประกอบไปด้วย
  • ควรศึกษาวิธีการดูฟิลเลอร์แท้ และการดูฟิลเลอร์ปลอมด้วยตนเอง เพื่อจะได้สังเกตเบื้องต้นก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  • หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ประทานอื่นๆ ควรเตรียมข้อมูลเพื่อแจ้งกับทางคลินิกก่อนการฉีดฟิลเลอร์
  • ห้ามแต่งหน้ามาฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากอาจมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บริเวณผิวหน้า แต่ถ้าไม่สะดวกก็สามารถแต่งหน้ามาได้แบบเบาๆ เพราะทางคลินิกแต่ละแห่งจะมีการทำความสะอาด คลีนผิวก่อนฉีดฟิลเลอร์ให้ทุกครั้ง
  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วจะไม่สามารถทำหัตถการเลเซอร์ได้ หากจำเป็นต้องมีการเลเซอร์ ควรทำก่อนการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3-5 วัน
  • ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหา เผื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละเคส
  • งดยาที่อยู่ในประเภทของแอสไพริน NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan
  • งดวิตามิน St. Johns Wort, Ginkgo biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E เพราะสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าในระหว่างฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะเสี่ยงต่ออาการช้ำหลังฉีด
  • งดยาทาผิวชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรงภายใน 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ?

  1. งดการแตะ แกะ เกาบริเวณที่ต้องการจะฉีด และอาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติและจะดีขึ้นใน 2-3 วัน
  2. หลังฉีดควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที ในกรณีที่ไม่ได้กินก่อนทำ
  3. งดรับประทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ อาหารหมักดอง หรืออาหารรสจัด งดเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้า
  4. งดเลเซอร์ที่ทำให้เกิดอากาศร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  5. ควรอยู่ในที่อาการเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. อย่างเช่น การออกกำลังกายอย่างหนักหรือซาวน่า
  6. อย่าขยับผิวในบริเวณที่ทำมากโดยเฉพาะ 3-5 วันแรก เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
https://youtu.be/LHvErjWwlK4

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังฉีด ฟิลเลอร์ Juvederm

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm คืออาการบวม แดง คัน จากรอยเข็ม แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 5-14 วันอย่างแน่นอน สำหรับภาวะแทรกซ้อนรองลงมาอาจเกิดก้อนขึ้นใต้ผิวหนัง และฟิลเลอร์เคลื่อนที่ ไหลลงมากองรวมกัน ในกรณีนี้อาจเกิดการปฏิบัติตัวหลังฉีด หรือเกิดจากความไม่ชำนาญและเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องของแพทย์ ส่วนผลข้างเคียงที่ร้ายแรงที่สุดคือ สารของฟิลเลอร์ Juvederm เข้าไปขัดขวางหลอดเลือด อาจส่งผลให้เนื้อเยื่อตาย และเสี่ยงตาบอดได้

วิธีเช็กฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้

ฟิลเลอร์ Juvederm จะต้องมีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
ฟิลเลอร์ Juvederm กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ

  • เลข lot ที่กล่อง
  • เลข lot ที่ซอง
  • เลข lot ที่สติกเกอร์
  • เลข lot ที่หลอด

สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท Allergan (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 640 4999 ต่อ 1

ฟิลเลอร์แต่ละจุดฉีดกี่ cc ?

โดยปกติแล้ว ฟิลเลอร์ Juvederm 1 หลอด (Syringe) จะมีปริมาณ 1 CC เมื่อฉีดฟิลเลอร์ออกมาจากเข็มไซริงค์แล้วจะมีปริมาณเทียบได้กับ ขนาด 1 เหรียญบาท

ส่วนภายในกล่องที่บรรจุฟิลเลอร์ ก็จะประกอบไปด้วย ฟิลเลอร์ขนาด 1 CC 1 หลอด หรือ 2 หลอด แล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์นั้นๆ พร้อมกับเข็มไซริงค์สำหรับฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงมีเอกสารประกอบการฉีดฟิลเลอร์ 

อีกทั้ง ฟิลเลอร์ Juvederm 1 CC สามารถฉีดสำหรับจุดที่ไม่ต้องการการเติมเต็มมาก อย่างเช่น ฉีดฟิลเลอร์คาง และฉีดฟิลเลอร์ปาก ถัดมาก็มักจะเป็นฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม บริเวณเหล่านี้จะใช้ฟิลเลอร์ในการฉีดประมาณ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาบริเวณใบหน้าของแต่ละบุคคล และการวิเคราะห์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ฟิลเลอร์ Juvederm ต่างจากฟิลเลอร์แบรนด์อื่นๆ อย่างไร ?

ทางเราต้องขอกระซิบบอกก่อนเลยว่า ฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์หรือแต่ละรุ่นนั้น จะมีขั้นตอนการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้เลือกนำมาใช้ให้เหมาะกับจุดบริเวณที่ฉีดของคนไข้แต่ละคน

ตัวอย่างเช่น ฟิลเลอร์แบรนด์ Restylane มีความโดดเด่นเรื่องของขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์เกาะกันหนาแน่น ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน มีค่าความคงทนสูง ช่วยยกพยุงผิวได้ดี มีหลากหลายรุ่นให้คุณหมอเลือกใช้ตามจุดที่ต้องการเติมเต็ม

ฟิลเลอร์แบรนด์ Belotero มีหลายรุ่นให้เลือกหลายรุ่นเช่นเดียวกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม จุดเด่นที่เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวมาก สามารถฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยของคนไข้ได้

แต่สำหรับฟิลเลอร์ Juvederm นั้น ก็จะมีจุดเด่นที่มีความเรียบเนียน ที่เหมาะกับการนำมาฟิลเลอร์มาฉีดที่บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ และแก้มตอบ ซึ่งในแต่ละจุดนั้น จำเป็นต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนประเมิน และบอกข้อดีของฟิลเลอร์ Juvederm ในแต่ละรุ่นนั้นๆ ให้คนไข้เลือกตามความเหมาะสมและเหมาะกับงบประมาณที่มีนั่นเอง

ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไร ?

ราคาฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา แต่ละรุ่น แต่ละที่ แต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามปัจจัยต่างๆ โดยที่ Attitude Clinic เราจำหนายทั้งหมด 5 รุ่น ช่วงราคาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ดังนี้

  • 1CC ราคา 14,990.-  จากราคาปกติ 17,990.-
  • 2CC ราคา 27,990.- เหลือเพียง 13,995.-/CC
  • 3CC ราคา 38,990.- เหลือเพียง 12,996.-/CC
  • 4CC ราคา 47,990.- เหลือเพียง 11,997.-/CC

โดยฟิลเลอร์ Juvederm ถือว่ามีเรทราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์แบรนด์อื่นๆในท้องตลาด แต่สำหรับ Attitude Clinic ของเราแล้วคิดว่าราคาคุ้มกับคุณภาพที่ลูกค้าจะได้รับ โดยราคาขายในแต่ละคลินิกก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ของคลินิกนั้นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ที่ไหน ทางเราก็อยากแนะนำว่าควรเลือกคลินิกที่สั่งซื้อฟิลเลอร์จาก บริษัท Allergan ประเทศไทยโดยตรง เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงนั่นเอง

ฟิลเลอร์ Juvederm อันตรายไหม ?

ผลลัพธ์ที่ต้องการจากการฉีดฟิลเลอร์ คือ การเติมเต็ม ปรับรูปหน้า รวมไปถึงแก้ไขข้อบกพร่อง ฟิลเลอร์ที่ความปลอดภัยสูงผ่านการรับรางจาก อย. ไทยให้สามารถฉีดรักษาคนไข้เพื่อความสวยงามได้ คือ ฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว จากสารที่เรียกว่าไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) สามารถสลายตัวได้เอง 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่นอกจากนั้นแล้วเรื่องของความปลอดภัยก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ได้แก่

  • ความรู้ความเชี่ยวชาญของแพทย์

เนื่องจากปัญหาของผู้ใช้บริการ แต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์จึงต้องมีความเชี่ยวชาญเรื่องของโครงสร้างผิว เพื่อฉีดแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ไม่เกิดความผิดพลาด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องสามารถประเมินรูปหน้าได้อย่างเหมาะสมว่าบริเวณที่ต้องการแก้ไขนั้น ควรใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหน ด้วยปริมาณเท่าไหร่ เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาให้ตรงความต้องการ

  • ฟิลเลอร์ของแท้

ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปบนใบหน้าของเราต้องเป็นของแท้ ยี่ห้อและรุ่นต้องผ่านการรับรองจาก อย. ไทย เท่านั้น ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้จากฉลากข้างกล่อง จะมีชื่อของผู้นำเข้าอย่างถูกต้อง และมีเลขอ้างอิง Lot. รวมถึงวันหมดอายุอย่างชัดเจน โดยสามารถโทรตรวจสอบได้เอง

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์


ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์

ผลลัพธ์หลังจากฉีดฟิลเลอร์ Juvederm เป็นธรรมชาติ เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับของผิวหน้า และมีอัตราการบวมน้ำน้อย มากไปกว่านั้น ฟิลเลอร์ Juvederm สามารถอยู่ได้นานถึง 12-24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้นั่นเอง

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ที่ Attitude Clinic ?

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ที่ Attitude Clinic ?

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่หลายๆ คลินิกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามกันอย่างมาก เพราะตัว ฟิลเลอร์ Juvederm นั้นมีเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถนำไปฉีดได้หลากหลายบริเวณที่ต้องการได้เลย ชึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าใครที่มาฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ผลลัพธ์ที่ได้จาก Attitude Clinic จะผิวที่ดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติแบบไม่โป๊ะ อีกทั้งฉีดแล้วไม่เป็นก้อนให้ใครสงสัยอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ก่อนการเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ทุกท่านก็ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐาน เพื่อรักษาความปลอดภัยของตนเองสำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาปัญหาผิว หรือหัตถการความงามอย่าง “ฟิลเลอร์” ว่าตนเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหน? ควรฉีดกี่ CC ? ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี? หรือหัตถการความงามอื่นๆ สามารถปรึกษากับทางคลินิกได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

Attitud Clinic การันตียอดใช้ฟิลเลอร์สูงสุดระดับประเทศ 3 ปีซ้อน

Attitude Clinic ตัวตึงภาคเหนือ ได้รับรางวัลใหญ่ที่สุดแห่งปี 2022 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นคลินิกที่มียอดใช้ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ถูกต้องตามกฎหมายสูงสุดในระดับภาคเหนือ รวมถึงได้มีการติดท็อประดับประเทศ ได้รับเชิญให้เข้าร่วม Event พิเศษต่างๆ มากมายในฐานะคลินิกที่สั่งยาแท้เท่านั้น!

รางวัล Diamond Awards 2022 จาก Allergan คลินิกที่มียอดใช้ โบ และ Filler อเมริกาสูงสุดระดับประเทศ ยอดสั่งซื้อมากกว่า 10 ล้านบาทในปี 2022 ได้รับรางวัลยอดใช้สูงสุดระดับประเทศต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ปี 2020-2022

Attitude Clinic ทุกสาขาเราใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐานการันตีรางวัลระดับประเทศ ที่สำคัญขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ไว้วางใจ เชื่อมั่น เราสัญญาจะมุ่งพัฒนารักษามาตรฐานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สวยหล่อต้องปลอดภัย ไว้ใจ Attitude Clinic ได้เลย

https://youtu.be/Kx1DGTHmqgQ
juveddrm

 

คำถามที่พบบ่อย

Q : ฟิลเลอร์สลายไปเอง 100% หรือไม่

A : ฟิลเลอร์สามารถสลายหมดได้ หากเป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid แท้ โดยจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ในแต่ละยี่ห้อ

Q : ฉีดฟิลเลอร์เจ็บมั้ย

A : ก่อนการฉีดฟิลเลอร์จะมีการทายาชาให้ก่อน รวมไปถึงในตัวฟิลเลอร์บางยี่ห้อก็มียาชา (Lidocane) ผสมอยู่ด้วย อย่างเช่น ฟิลเลอร์ Juvederm ที่มียาชาผสมอยู่ในทุกรุ่นของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นเวลาฉีดคนไข้จึงแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย

Q : ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร

A : สามารถเกิดได้ 2 แบบ คือจากการติดเชื้อ และไม่ใช่การติดเชื้อ ถ้ามีการติดเชื้อต้องรีบพบแพทย์ที่ทำการรักษา ส่วนกรณีที่ไม่ใช่การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน เลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด หรือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์

Q : ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ได้จริงหรือไม่

A : สามารถช่วยแก้ไขใบหน้าที่หย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด แก้ปัญหาหน้าตกจากปัญหากระดูกยุบตัวลงได้ ฟิลเลอร์สามารถแทนที่กระดูกที่ยุบหายไป และยังแทนที่ไขมันที่หายไปได้ด้วย ทำให้ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ที่สำคัญฟิลเลอร์มีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายได้เอง100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี

Q : ฟิลเลอร์ 1 cc เยอะมั้ย ?

A : ฟิลเลอร์ 1 CC จะใช้ฉีดในจุดที่ไม่ต้องเติมเต็มมาก ได้แก่ ฟิลเลอร์ปาก, ฟิลเลอร์คาง ถัดมาจะเป็นฟิลเลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ฟิลเลอร์แก้มส้ม ถ้าใช้ 1 CC ก็จะต้องแบ่งฉีดข้างละ 0.5 เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาน้อยๆ หรืออยากลองทยอยฉีดก่อนเพื่อดูผลลัพธ์

✨ Attitude Clinic เผยความงามในแบบคุณ ✨

คลิก! ดูรีวิวการรักษาเพิ่มเติม

พิเศษ! สำหรับลูกค้าแอททิจูด คลินิก ทุกท่าน 💙
📲 สามารถเช็กข้อมูลและรายละเอียดคอร์สการรักษาและสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมั้ย ได้ที่

คลิกเลย! attitude.clinic

✓ ดูสิทธิพิเศษและโปรโมชั่น
✓ ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
✓ ข้อมูลและรายละเอียดคอร์สการรักษา

✓ จำนวนการใช้คอร์สการรักษา
✓ ขอดูภาพรีวิวการรักษา
✓ ผลเจาะเลือดวัดค่าตับ LFT

✓ อัปเดตสะสมแสตมป์เพื่อรับของรางวัลพิเศษ
✓ เช็กประวัติวงเงินบัตรเครดิต
✓ รายการชำระเงิน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Branch

สาขา

สาขาห้วยขวาง

สาขาเชียงราย

สาขาแม่สาย

สาขาเชียงใหม่

สาขาลำปาง

ติดต่อสาขา

สาขาเชียงราย

สาขาลำปาง

สาขาเชียงใหม่

สาขาห้วยขวาง

สาขาแม่สาย

ติดต่อสาขา

สาขาเชียงราย

สาขาลำปาง

สาขาเชียงใหม่

สาขาห้วยขวาง

สาขาแม่สาย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า