รู้จักโบท็อกซ์ Allergan อันดับหนึ่ง แบรนด์แรกของโลก ศึกษาไว่ก่อนฉีด จะได้ไม่โดนหลอก!

รู้จักโบท็อกซ์ Allergan อันดับหนึ่ง แบรนด์แรกของโลก

ถ้าพูดถึงโบท็อกซ์ หลายคนคงรู้จักโบท็อกซ์กันเป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า โบท็อกซ์แบรนด์แรกของโลก คือ โบท็อกซ์ Allergan ที่ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศสหรัฐอเมริกา

รู้จักโบท็อกซ์ Allergan แบรนด์แรกของโลก

จุดเริ่มต้นการกำเนิด โบท็อกซ์ Allergan เริ่มต้นเมื่อปี 1989 มาจากการที่ บริษัทอัลเลอร์แกน เป็นบริษัทรายแรกที่พยายามคิดค้นนวัตกรรมในการลดขนาดกล้ามเนื้อและลดริ้วรอย ที่จะให้ผลลัพธ์ดีที่สุด จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนากว่า 4,000 งานวิจัย จนกลายเป็นโบท็อกซ์ Allergan ซึ่งเป็นต้นแบบของโบท็อกซ์อื่นๆ ในเวลาต่อมา

โบท็อกซ์ Allergan ถูกยอมรับเป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกที่ได้รับการรับรอง US FDA (Food and Drug Administration : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า มีมาตรฐานความปลอดภัย และในประเทศไทย และ ยังเป็นแบรนด์แรกได้รับการรับรอง THAI FDA (Food and Drug Administration : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ของประเทศไทยอีกด้วย ปัจจุบัน โบท็อกซ์ Allergan ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมความงามของไทย

โบท็อกซ์ Allergan ทำงานยังไง

โบท็อกซ์ Allergan คือ สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดพิเศษ ในการลดเลือนริ้วรอย สารตัวนี้จะสามารถจับกับปลายเส้นประสาทที่มีหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด อยู่ในสภาพคลายตัว ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้น ถูกล็อคให้ตึงขึ้น ทำให้ริ้วรอยหายไป ในส่วนของการปรับรูปหน้า และลดสัดส่วนร่างกาย โบท็อกซ์จะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อที่ถูกฉีด คลายตัวและแบนรีบ จนมีขนาดเล็ก เรียวลง จนทำให้ดูเล็กลง ดูกระชับมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Allergan

โบท็อกซ์ Allergan ว่ามีความโดดเด่นในด้านของความบริสุทธิ์ ที่มีมากถึง 99.5% ทำให้เกิดโอกาสดื้อโบท็อกซ์ได้น้อย และตัวยายังกระจายตัวเป็นวงแคบ ทำให้คุณหมอสามารถประเมิน กำหนดผลลัพธ์การฉีดได้แม่นยำและคงที่ อีกทั้ง ตัวยามีการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพตัวผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่จะได้

โบท็อกซ์ Allergan ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

โบท็อกซ์ Allergan ถูกวิจัยและพัฒนาให้สามารถใช้ในทางด้านการแพทย์และทางด้านความงามได้ โดยจะสามารถแก้ปัญหาในต่างๆได้ ดังนี้

ในด้านเสริมความงาม

  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า (Anti-aging) ที่เกิดจากอายุและการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว
  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับ (Lifting) สัดส่วนบนใบหน้าและลดขนาดกรามให้รูปหน้าเรียว กรอบหน้าคมชัด
  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับขนาดรูปร่าง (Size And Shape) เช่น น่องขาและท่อนแขน ให้เรียวกระชับ

ในด้านการรักษา

  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาโรคที่เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เช่น อาการตาเหล่ ตาเข (Strabismus) กล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia) โดยฉีดเข้าในบริเวณตำแหน่งที่มีอาการผิดปกติ
  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อระงับต่อมเหงื่อที่ทำงานมากกว่าปกติ (Hyperhidrosis) ในบริเวณใต้วงแขนเพื่อลดกลิ่นกาย ในบางคนที่มีกลิ่นกาย ไม่ได้เกิดจากเรื่องความสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเกิดจากฮอร์โมนหรือต่อมเหงื่อที่ทำงานมากกว่าปกติ โดยฉีดเข้าในบริเวณกล้ามเนื้อใต้วงแขน
  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาโรคลิ้นหัวใจพิการ (Congenital Heart Disease) จากการค้นคว้าวิจัยล่าสุดพบว่า การฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในเนื้อเยื่อไขมันหัวใจ (Epicardial Fat Pads) จะสามารถลดความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Atrial Fibrillation) ในผู้ป่วยลิ้นหัวใจพิการ ได้นานถึง 1 ปี
  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาโรคไมเกรน (Migraine) สามารถเข้าไปยับยั้งปลายประสาท Acetyl Choline (แอนซิทิล โคลิน) ซึ่งเป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ช่วยให้อาการปวดไมเกรนน้อยลง โดยฉีดเข้าในบริเวณกล้ามเนื้อคิ้ว หางตา ต้นคอ บ่า ไหล่
  • ฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) สามารถเข้าไปยับยั้งปลายประสาทที่ส่งต่อความเจ็บปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ ทำให้อาการปวดออฟฟิศซินโดรมลดน้อยลง โดยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่

โบท็อกซ์ Allergan เหมาะกับใคร

อย่างที่ทราบกันดีว่า โบท็อกซ์ มีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ทั้งการรักษาและเสริมความงาม แต่หากจะกล่าวถึงด้านเสริมความงาม โบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ดังนี้

  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า แบบได้ผลดี แม่นยำ และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ปรับสัดส่วนใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่าง เช่น ท่อนแขน น่องขา ให้เล็กลง

โบท็อกซ์ Allergan ฉีดจุดไหนได้บ้าง

โบท็อกซ์ เป็นตัวยาที่ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลง ซึ่งสามารถฉีดกล้ามเนื้อได้ในทุกจุดที่ต้องการ ซึ่งการฉีดในแต่ละจุดจะใช้ในปริมาณที่แตกต่างกัน เพราะกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนมีลักษณะกายภาพที่ต่างกัน

  • ฉีดกล้ามเนื้อบริเวณระหว่างคิ้ว หางตา หน้าผาก เพื่อลดเลือนริ้วรอย โดยจะใช้ฉีดในปริมาณต่างกัน เช่น บริเวณหน้าผาก 12 ยูนิต ฉีดบริเวณระหว่างคิ้ว 16 ยูนิต ฉีดบริเวณหางตา 24 ยูนิต (ข้างละ 12 ยูนิต)
  • ฉีดกล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อปรับรูปหน้า โดยฉีดในปริมาณ 50 ยูนิต ข้างละ 25 ยูนิต
  • ฉีดกล้ามเนื้อท่อนแขน น่องขา เพื่อลดขนาดให้กระชับ โดยฉีดในปริมาณ 100-150 ยูนิต ข้างละ 50-80 ยูนิต

ใครที่ห้ามฉีดโบท็อกซ์

ถึงแม้โบท็อกซ์ จะแก้ปัญหาความกังวลใจได้หลายอย่าง แต่ก็มีผู้ที่ห้ามฉีดโบท็อกซ์อย่างเด็ดขาดอยู่ด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวและมีความเสี่ยงว่า ถ้าหากฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เช่น

  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด (Asthma) โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) เพราะโบท็อกซ์จะส่งผลต่อการหดตัวของหลอดเลือดและการแลกเปลี่ยนก๊าซ อาจจะทำให้อันตรายถึงชีวิต
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อการกลืน (Dysphagia) เพราะโบท็อกซ์จะส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ อาจจะส่งผลทำให้ลำบากในการกลืนอาหารมากกว่าปกติ
  • ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณต่างๆ (Myasthenia Gravis) เพราะโบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและอ่อนแรงมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่มีอาการติดเชื้อหรือ เป็นแผลอักเสบที่ผิวหนัง ในจุดที่ต้องการจะฉีดโบท็อกซ์ อาจทำให้มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
  • ผู้ที่มีอาการเสี่ยงติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection) เพราะอาจจะทำให้ปัสสาวะเป็นเลือดและติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
  • ผู้กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพราะโบท็อกซ์เป็นสารที่ไม่ควรส่งผ่านถึงทารก อาจจะเป็นอันตรายต่อทารกอย่างมาก

ฉีดโบท็อกซ์ Allergan กี่วันเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

โบท็อกซ์ Allergan มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีและออกฤทธิ์เร็ว ซึ่งจะระยะเวลาการออกฤทธิ์จะต่างกันในจุดที่ฉีด ดังนี้

การฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลใน 2-3 วัน เริ่มจากริ้วรอยตื้นๆ และจะเริ่มเห็นผลชัด ใน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะคงอยู่ 6-8 เดือน เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กมาก จึงเห็นผลเร็ว

ารฉีดเพื่อลดขนาดกรามหรือขนาดรูปร่าง จะเริ่มเห็นผลใน 4-7 วันแรก และจะเริ่มเห็นผลชัดใน 1 เดือน ผลลัพธ์จะคงอยู่ 6-8 เดือน เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่และแข็ง เพราะมีการใช้เคี้ยวข้าวทุกวัน ทำให้ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์นานกว่า

ข้อควรระวังของการฉีดโบท็อกซ์

ในการใช้โบท็อกซ์ มีข้อควรระวัง ทั้งก่อนฉีดและหลังฉีดโบท็อกซ์ที่จะนำมาบอกกัน เพื่อให้ระมัดระวังในการปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง ไม่ส่งผลเสียทั้งก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์

ก่อนการฉีดโบท็อกซ์

  • ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ 24 ชั่วโมง ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายมากเกินไป จนเกิดรอยช้ำชัดขึ้นในจุดที่ฉีด
  • ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ 1-2 วัน ควรงดการใข้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร AHA, วิตามิน A เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองบนใบหน้า
  • ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ 5 วัน ควรงดทานยาหรืออาหารเสริมต่างๆ เพราะจะทำให้เกิดรอยช้ำมากขึ้นในจุดที่ฉีด

หลังการฉีดโบท็อกซ์

  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 4 ชั่วโมง ควรงดการนอนพื้นราบ เพื่อป้องกันการไหลของยาไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่น ที่ไม่ต้องการ
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 4 ชั่วโมง ควรงดการออกกำลังกายหนัก เพื่อป้องกันการไหลของยาไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่น ที่ไม่ต้องการ
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 7 วัน ควรงดการโดนแสงแดดจัด เพราะความร้อนจะทำให้โบท็อกซ์สลายเร็วขึ้น
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 7 วัน ควรงดอาหารรสจัด เผ็ดร้อน หมักดอง เพราะ เสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการฉีด
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 7 วัน ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายมากเกินไป จนเกิดรอยช้ำชัดขึ้นในจุดที่ฉีด
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ 7 วัน ควรรับประทาน zinc 50 mg. เพราะจะช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ไวขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ 7 วัน ควรงดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA BHA วิตามิน A ที่อาจเกิดการระคายเคืองได้
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 7-14 วัน ควรงดที่จะกดหรือนวดใบหน้าในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้ตัวยาไม่กระจายตัวไปในบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 14 วัน ควรเลี่ยงการทำหัตถกรรมใบหน้าที่ใช้ความร้อน เช่น การทำหัตถการเลเซอร์ หรือ ทรีทเมนท์ เพราะความร้อนจะทำให้โบท็อกซ์สลายเร็วขึ้น
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ 14 วัน ควรงดสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่อย่างนิโคติน (Nicotine) ในบุหรี่ จะส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้การกระจายตัวของโบท็อกซ์ไม่ดีเท่าที่ควร

อาการข้างเคียงหลังจากฉีดโบท็อกซ์

ถึงแม้โบท็อกซ์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ในบางครั้งก็มีผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดจากการฉีดโบท็อกซ์ได้เหมือนกัน เช่น

  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ทันที จะทำให้แสดงสีหน้าได้ลำบาก ยิ้มหรือหัวเราะได้ยากขึ้น
  • หลังการฉีดโบท็อกซ์ทันที อาจจะทำให้เกิดเจ็บแสบ บวมแดงในบริเวณที่ฉีดได้ แต่จะหายไปภายใน 2-3 ชั่วโมง
  • หลังการฉีด ถ้าปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง เช่น นอนพื้นราบหรือ ออกกำลังกายหนัก โบท็อกซ์อาจจะไหลไปในบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ อาจจะทำให้เกิดอาการปากเบี้ยว คิ้วตก พูดไม่ชัด

วิธีการดูโบท็อกซ์ Allergan ของแท้

ก่อนจะฉีด เราควรรู้วิธีสังเกตโบท็อกซ์ Allergan ของแท้ว่า ลักษณะบรรจุภัณฑ์และขวดเป็นอย่างไร เพื่อจะได้มั่นใจในคุณภาพและความบริสุทธิ์ว่า เป็นโบท็อกซ์ Allergan ของแท้ที่มีคุณภาพจริงๆ

  • บรรจุภัณฑ์จะต้องมีการซีล ป้องกันการเปิด
  • บนกล่องบรรจุ มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • บนกล่องบรรจุ มีเลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. บนฝากล่อง และเลข Lot. ที่ข้างขวด
  • ต้องเป็นสารสีขาวที่ก้นขวด ไม่มีน้ำในขวด เพราะต้องมีการเติมน้ำเกลือเข้าไปในขวดเพื่อผสมทีหลังเท่านั้น

เทียบโบท็อกซ์ Allergan กับยี่ห้ออื่น

  • Botulax
    สัญชาติ : เกาหลีใต้
    จุดเด่น : เป็นโบท็อกซ์ที่โดดเด่นในเรื่องของความอ่อนโยนและความบริสุทธิ์มากถึง 98.7% เกือบจะเท่า Allergan เพราะถูกพัฒนาให้เหมือน Allergan
    ระยะเวลา : 3-6 เดือน
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : มีความบริสุทธิ์เกือบเท่า Allergan แต่ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า และราคาถูกกว่าหลายเท่า
  • Nabota
    สัญชาติ : เกาหลีใต้
    จุดเด่น :  มีความบริสุทธิ์สูง 98.7% เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว ช่วยลดอาการดื้อโบท็อกซ์ลง
    ระยะเวลา : 3-6 เดือน
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า Allergan และผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า
  • Dysport
    สัญชาติ : อังกฤษ
    จุดเด่น : มีการกระจายตัวได้กว้าง เมื่อฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ จะไม่กระจุกตัวแคบๆ เหมาะกับการฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ฉีดลดกราม ฉีดลดขนาดท่อนแขน น่องขา
    ระยะเวลา : 3-6 เดือน
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า Allergan และผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า
  • Xeomin
    สัญชาติ : เยอรมัน
    จุดเด่น : โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ 100% เพราะถูกสกัด Complexing Proteins ออก ทำให้โมเลกุลเล็กลง จับกับปลายประสาทได้ดีกว่า และเกิดการดื้อโบท็อกซ์น้อยที่สุด ในบรรดาโบท็อกซ์ทุกยี่ห้อ
    ระยะเวลา : 8 เดือน – 1 ปี
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : ด้านความบริสุทธิ์มากกว่า Allergan ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า Allergan และเสี่ยงต่อการดื้อโบท็อกซ์น้อยกว่าด้วย
  • Aestox
    สัญชาติ : เกาหลีใต้
    จุดเด่น :  ความบริสุทธิ์เกือบเทียบเท่า Allergan เห็นผลเร็ว ออกฤทธิ์ไว
    ระยะเวลา : 3-6 เดือน
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า Allergan และราคาถูกกว่าเกือบเท่าตัว
  • Hugel
    สัญชาติ : เกาหลีใต้
    จุดเด่น :  ถูกพัฒนาให้มีคุณภาพเทียบเคียงโบท็อกซ์อเมริกา นั่นคือ มีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ไว มีความบริสุทธิ์สูง
    ระยะเวลา : 5-6 เดือน
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า และราคาถูกกว่าเกือบเท่าตัว
  • BXTA
    สัญชาติ : ฮ่องกง
    จุดเด่น :  โบท็อกซ์ที่ใช้เวลาวิจัยและพัฒนายาวนานกว่า 30 ปี โดยนักวิจัยหลักคนเดียวกับโบท็อกซ์ Allergan คือ ดร. อลัน บราวน์ สก็อต (Dr. Alan Brown Scott) ทำให้มีคุณภาพเทียบเคียงโบท็อกซ์ Allergan
    ระยะเวลา : 3-6 เดือน
    ผลลัพธ์เทียบกับ Allergan : ด้านความบริสุทธิ์ถือว่า เกือบเทียบเท่า Allergan และผลลัพธ์อยู่ได้นานใกล้เคียงกัน

โบท็อกซ์ Allergan ราคาเท่าไหร่

ถึงแม้ว่าราคาโบท็อกซ์ Allergan จะค่อนข้างสูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ อยู่ในช่วงราคา 8,000-15,000 บาท ซึ่งแต่ละคลินิกจะมีราคาแตกต่างกัน ตามแต่ละปัจจัย แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและคุณสมบัติทั้งเรื่องความบริสุทธิ์ และระยะเวลาของผลลัพธ์ ทำให้โบท็อกซ์แรนด์นี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และคุ้มราคา

โปรโมชั่น โบท็อกซ์ Allergan

Attitude Clinic มีโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ Allergan อันดับหนึ่งของโลก และมีความไว้วางใจให้ Attitude Clinic ดูแลโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญอยู่ประจำ ดูแลและทำหัตถการเองทุกเคส ในราคาสุดคุ้ม

โบท็อกซ์ Allergan 50 unit
เพียง 8,990 บาท จาก ปกติ 9,990 บาท

โบท็อกซ์ Allergan 100 unit
เพียง 16,990 บาท ปกติ 17,990 บาท

รู้หรือไม่ “โบท็อกซ์” คือชื่อแบรนด์ ไม่ใช่ชื่อยา

แม้จะเรียกกันว่า โบท็อกซ์ แต่จริงๆ แล้ว น้อยคนที่จะรู้ว่า โบท็อกซ์ เป็นชื่อทางการค้าที่บริษัท Allergan จดลิขสิทธิ์ให้กับสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) เนื่องจาก บริษัท Allergan เป็นบริษัทรายแรกที่ทำการตลาดสารชนิดนี้ จนหลายคนติดหูคำว่า โบท็อกซ์ จนทำให้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ จากทุกบริษัท ถูกเรียกเหมารวมว่า โบท็อกซ์ เราจึงต้องเติมคำว่า Allergan ตามหลัง เพื่อป้องกันความสับสนว่า หมายถึงโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนกันแน่

โบท็อกซ์ Allergan ดีไหม

โบท็อกซ์ Allergan จัดอยู่ในระดับที่คุณภาพดีเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับหลายๆยี่ห้อ ดังที่เทียบไปในหัวข้อข้างต้น จึงถือเป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกๆ ที่คุณหมอด้านความงามแนะนำ โดดเด่นทั้งในด้านความบริสุทธิ์ของตัวยามากกว่า 99.5% การกระจายตัวคงที่ มีประวัติการดื้อโบท็อกซ์น้อย ให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างเห็นได้ชัด และอยู่ได้นาน แม้มีราคาที่อาจจะสูง แต่มีพัฒนากว่า 4,000 งานวิจัย และยอดขายมากกว่า 100 ล้านขวดในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของโบท็อกซ์แบรนด์นี้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Allergan

  • โบท็อกซ์ไม่จำกัดยูนิตมีจริงหรือไม่?
    ตอบ โบท็อกซ์ไม่จำกัดอยู่นิต เป็นโปรโมชั่นที่มีอยู่จริงๆ โดยเป็นโปรโมชั่นที่คลินิกเสริมความงามต่างๆ ใช้ดึงดูดลูกค้า แต่การฉีดโบท็อกซ์แบบไม่จำกัดยูนิต อาจจะทำให้ร่างกายได้รับโบท็อกซ์มากเกินกว่าจำนวนที่เหมาะสม จนทำให้โบท็อกซ์ไหลไปในบริเวณใกล้เคียง หรือร่างกายเกิดการต่อต้านโบท็อกซ์ จนเกิดการดื้อโบท็อกซ์ได้
  • โบท็อกซ์ต้องให้หมอฉีดเท่านั้นหรือเปล่า?
    ตอบ การฉีดโบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ต้องมีการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวหนังของร่างกาย จึงต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะการทำหัตถการฉีด จะต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง และความเข้าใจทางกายวิภาคศาสตร์เป็นอย่างสูง จึงต้องให้คุณหมอเท่านั้น เป็นผู้ทำได้
  • ผู้ชายฉีดโบท็อกซ์ลดกรามได้ไหม?
    ตอบ การฉีดโบท็อกซ์ ไม่ว่าจะเพื่อการปรับรูปหน้า ลดขนาดกรามหรือการลดริ้วรอย สามารถทำได้ทั้งหญิงและชาย เพียงแต่ว่า ขนาดกรามและใบหน้าของผู้ชายจะมีขนาดใหญ่กว่าผู้หญิง ซึ่งทำให้เทคนิคการฉีดและปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้แตกต่างกัน
  • ต้องอายุ 40 ปีขึ้นไปหรือเปล่า ถึงจะเริ่มใช้โบท็อกซ์ได้?
    ตอบ ไม่จำเป็นจะต้องมีอายุ 40 ขึ้นไปเท่านั้น สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีเป็นต้นไป เพราะเป็นวัยที่เริ่มสูญเสียคอลลาเจน และเริ่มมีริ้วรอยตื้นๆ ให้เห็นในบางคน สำหรับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกราม จะนิยมฉีดกันตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อปรับรูปลักษณ์และบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น
  • ฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม?
    ตอบ การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ใช้เข็มฉีดที่ชั้นผิวหนัง ทำให้รู้สึกเจ็บนิดๆ คล้ายกับถูกมดกัน แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ เพราะใช้เข็มที่มีขนาดเล็ก อีกทั้งในหลายๆคลินิก มีการแปะยาชาและประคบน้ำแข็งให้ก่อนการฉีดด้วย ทำให้ความเจ็บลดลง ทำให้การฉีดสบายขึ้น
  • ฉีดเสร็จต้องพักนานไหม?
    ตอบ ในการฉีดโบท็อกซ์ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่ในส่วนของการพักใบหน้าหลังการฉีด ให้ล้างหน้าได้หลังการฉีด 4 ชั่วโมง และงดการใช้เครื่องสำอาง สกินแคร์ หลังการฉีด 24 ชั่วโมง

Attitude การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศ Diamond Aword 2022 คลินิกที่มียอดใช้โบท็อกซ์และ Filler อเมริกาสูงสุดระดับประเทศ ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน

คุณหมอนุและคุณตี๋ ผู้บริหาร Attitude Clinic ได้รับเชิญเข้าร่วมงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ประจำปี ‘Allergan Aesthetics Recognition Ceremony 2022 : The Future of Aesthetics จาก Allergan บริษัทผู้จำหน่ายโบท็อกซ์และ Filler แบรนด์อันดับ 1 ของโลก ว่าเป็นคลินิกที่มียอดใช้โบท็อกซ์ และ Filler อเมริกาสูงสุดระดับประเทศติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว ปี 2020-2022 ความพิเศษของปีนี้คือ Attitude Clinic ได้รับรางวัล Diamond Awards 2022 คลินิกที่มียอดใช้โบท็อกซ์ และ Filler อเมริกาสูงสุดระดับประเทศ ยอดสั่งซื้อมากกว่า 10 ล้านบาทในปี 2022

มั่นใจได้เลยว่า Attitude Clinic ทุกสาขาเราใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐานจากบริษัท Allergan โดยตรง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของคุณลูกค้า สวยหล่ออย่างปลอดภัย คุณหมอดูแลเองทุกเคส

https://youtu.be/Kx1DGTHmqgQ

✨ Attitude Clinic เผยความงามในแบบคุณ ✨

คลิก! ดูรีวิวการรักษาเพิ่มเติม

พิเศษ! สำหรับลูกค้าแอททิจูด คลินิก ทุกท่าน 💙
📲 สามารถเช็กข้อมูลและรายละเอียดคอร์สการรักษาและสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมั้ย ได้ที่

คลิกเลย! attitude.clinic

✓ ดูสิทธิพิเศษและโปรโมชั่น
✓ ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
✓ ข้อมูลและรายละเอียดคอร์สการรักษา

✓ จำนวนการใช้คอร์สการรักษา
✓ ขอดูภาพรีวิวการรักษา
✓ ผลเจาะเลือดวัดค่าตับ LFT

✓ อัปเดตสะสมแสตมป์เพื่อรับของรางวัลพิเศษ
✓ เช็กประวัติวงเงินบัตรเครดิต
✓ รายการชำระเงิน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Branch

สาขา

สาขาห้วยขวาง

สาขาเชียงราย

สาขาแม่สาย

สาขาเชียงใหม่

สาขาลำปาง

ติดต่อสาขา

สาขาเชียงราย

สาขาลำปาง

สาขาเชียงใหม่

สาขาห้วยขวาง

สาขาแม่สาย

ติดต่อสาขา

สาขาเชียงราย

สาขาลำปาง

สาขาเชียงใหม่

สาขาห้วยขวาง

สาขาแม่สาย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า