ดูแลรูปร่าง สัดส่วน
Body Shaping Treatment
Body Shaping Treatment
หลายคนใช้ชีวิตเต็มที่ ทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเองด้วยชีวิตประจำวันเร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย หรือเลือกกินจนปล่อยให้น้ำหนักขึ้น รูปร่างเปลี่ยนจากไขมันส่วนเกินสะสม เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง แม้บางครั้งจะพยายามกลับมาดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีไขมันส่วนเกินบางจุดที่ลดได้ยาก และยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งลดยากขึ้นไปอีก
หลายคนใช้ชีวิตเต็มที่ ทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเองด้วยชีวิตประจำวันเร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย หรือเลือกกินจนปล่อยให้น้ำหนักขึ้น รูปร่างเปลี่ยนจากไขมันส่วนเกินสะสม เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง แม้บางครั้งจะพยายามกลับมาดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีไขมันส่วนเกินบางจุดที่ลดได้ยาก และยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งลดยากขึ้นไปอีก
ไขมันส่วนเกินคืออะไร ?
ไขมันส่วนเกิน หรือ Subcutaneous Fat คือไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก นอกจากนี้ยังสะสมอยู่ที่อวัยวะภายในของร่ายกายด้วย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ลำไส้ เรียกว่า Visceral Fat โดยไขมันส่วนเกินจะทำให้รูปร่างใหญ่ขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เสี่ยงมีปัญหาสุขภาพตามมา ยิ่งไขมันส่วนเกินมีมากยิ่งเสี่ยงมาก
ไขมันส่วนเกินเกิดจากอะไรได้บ้าง ?
กรรมพันธุ์
โรคอ้วน หรือมีไขมันส่วนเกินมาก สามารถเกิดได้จากพันธุกรรม ถ้ามีพ่อแม่ หรือญาติอ้วนก็มีเปอร์เซ็นที่จะอ้วน หรือมีไขมันส่วนเกินได้มากกว่าคนทั่วๆ ไป
อายุ
อายุที่มากขึ้นทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลง ถ้ายังทานอาหารเท่าเดิมหรือมากขึ้น จะทำให้พลังงานส่วนเกินมีมากขึ้นจนสะสมเป็นไขมันส่วนเกินได้
เพศ
ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นที่จะอ้วน หรือมีไขมันส่วนเกินได้ง่ายกว่าผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนที่มักจะทำงานไม่ค่อยสมดุลในผู้หญิง โดยเฉพาะวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือหมดประจำเดือนไปแล้ว
ทานอาหารมากเกินไป
ทานอาหารมากกว่าการเผาผลาญของร่างกายในแต่ละวัน โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมัน แป้ง และน้ำตาลมากเป็นพิเศษจนกลายเป็นพลังงานส่วนเกิน เมื่อสะสมมากๆ ก็กลายเป็นไขมันส่วนเกินในที่สุด
วิธีดูแลรูปร่าง จัดการไขมันส่วนเกิน
- เลือกอาหารที่รับประทาน และปริมาณให้เหมาะสม : เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมต่อการเผาผลาญของร่างกาย เพื่อไม่ให้เกิดไขมันส่วนเกินสะสม โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกาย และขยับร่างกายให้มากขึ้น : ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และดึงพลังงานไขมันส่วนเกินมาใช้ ทำให้ไขมันลดลง รูปร่างดีขึ้น กระชับขึ้น แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ และเครียดให้น้อยลง : การพักผ่อน และความเครียดส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ถ้าพักผ่อนเพียงพอ ไม่เครียด ฮอร์โมนในร่างกายจะทำงานปกติ ระบบเผาผลาญก็ยังทำงานได้ดี และพฤติกรรมการทานอาหารก็จะดีอีกด้วย
- ปรึกษาคุณหมอ : ปัจจุบันมีวิธีการดูแลรูปร่างที่หลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย หรือเลือกอาหาร โดยสามารถลดไขมันส่วนเกินได้หลายจุดที่ต้องการทั้งต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก โดยแต่ละโปรแกรมจะทำงานแตกต่างกันออกไป ก่อนเลือกโปรแกรมไหนควรศึกษา และปรึกษาคุณหมออย่างละเอียดก่อน
Body Shaping Treatment
โปรแกรมดูแลรูปร่าง สัดส่วนที่ Attitude Clinic
ที่ Attitude Clinic เรามี 3 โปรแกรมที่จะช่วยคุณดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน ให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
โปรแกรม RF Slim
โปรแกรม RF Slim หรือ Radio Frequency Slim เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุเข้าไปสลายไขมันส่วนเกิน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินใต้ผิว ทำให้ผิวยกกระชับ และสัดส่วนเล็กลงในเวลาเดียวกัน
หลักการทำงานของโปรแกรม RF Slim
เครื่อง RF Slim ทำงานโดยส่งคลื่นความถี่วิทยุที่ 0.3-1.0 MHz เปลี่ยนเป็นความร้อนกระจายไปบนผิว ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ จนถึงชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน อีกทั้งยังมีระบบนวดช่วยให้ไขมันส่วนเกินแตกตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสตีน ทำให้ผิวกระชับขึ้นอีกด้วย
โปรแกรม RF Slim ดูแลรูปร่างจุดไหนได้บ้าง ?
- คอ
- ต้นแขน
- ต้นขา
- หน้าท้อง
- สะโพก
จุดเด่นของโปรแกรม RF Slim
- คลื่น RF ทำปฏิกิริยากับไขมันมากกว่ากล้ามเนื้อ ทำให้เมื่อเปลี่ยนเป็นความร้อนที่ไขมันจะร้อนกว่าส่วนอื่น จึงสลายไขมันได้ดีโดยไม่ส่งผลกระทบกับกล้ามเนื้อ
- ส่งพลังงานลงถึงผิวชั้นลึก ทำให้สลายไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด
- มีระบบนวดช่วยเร่งการแตกตัวของไขมันส่วนเกิน
- สัดส่วนลดลง ผิวกระชับขึ้นโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น
โปรแกรม RF Slim เหมาะกับใคร ?
- คนที่ต้องการลดไขมันส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- คนที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- คนที่อยากแก้ปัญหาเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม
ดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม RF Slim
- แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายขับของเสียที่เกิดจากการสลายไขมันด้วยคลื่น RF ออกมา
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เนื่องจากจะไปขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูผิว
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่ทำโปรแกรม RF Slim เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
ทำโปรแกรม RF Slim กี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
โดยปกติหลังจากทำครั้งแรกจะสังเกตเห็นได้ว่าผิวเริ่มกระชับขึ้น สัดส่วนลดลง โดยจะลงมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และปริมาณไขมันส่วนเกินของคนไข้แต่ละคนคนที่ต้องการลดไขมันส่วนต่างๆ ของร่างกายคนที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับคนที่อยากแก้ปัญหาเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม
โปรแกรม HIFEM
โปรแกรม HIFEM หรือ High-Intensity Focused Electromagnetic Technology ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูงไปที่ผิวหนังลงลึกถึงชั้นไขมัน และกล้ามเนื้อ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัวคลายตัวเหมือนตอนออกกำลังกาย และดึงพลังงานในร่างกายมาใช้ ทำให้สลายไขมันส่วนเกินได้ และสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มได้ในเวลาเดียวกัน
หลักการทำงานของโปรแกรม HIFEM
เครื่อง HIFEM ทำงานโดยการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูงเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้หดตัวคลายตัวเหมือนตอนออกกำลังกย ขยับร่างกาย เมื่อกล้ามเนื้อถูกกระตุ้นหนักๆ ร่างกายจะสูญเสียพลังาน และดึงพลังงานส่วนเกินมาใช้ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และสร้างกล้ามเนื้อใหม่เพิ่มไปพร้อมกัน
โปรแกรม HIFEM ดูแลรูปร่างจุดไหนได้บ้าง ?
- หน้าท้อง
- บั้นท้าย
- ต้นแขน
- ต้นขา
จุดเด่นของโปรแกรม HFEM
- สามารถเพิ่มกล้ามเนื้อ และลดไขมันพร้อมกันได้ภายในครั้งเดียว
- ทำโปรแกรม HIFEM 30 นาทีเทียบเท่ากับการทำซิทอัพ 20,000 ครั้ง
- กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ผิวกระชับขึ้น ไขมันส่วนเกินลดลงโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
โปรแกรม HIFEM เหมาะกับใคร ?
- คนที่ต้องการลดไขมัน ดูแลรูปร่าง
- คนที่ต้องการกระชับสัดส่วนจุดต่างๆ ของร่างกาย
- คนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ สร้าง six pack/sexy line แต่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย
เตรียมตัวก่อนตัดสินใจทำโปรแกรม HIFEM
การทำโปรแกรม HIFEM แทบจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย เพียงแค่หลีกเลี่ยงการทานอาหารก่อนทำประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
ดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม HIFEM
หลังทำโปรแกรม HIFEM สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น แต่ถ้าอยากให้ผลลัพธ์ดี และอยู่ได้นาน แนะนำให้ดูแลการทานอาหาร และออกกำลังกายเพิ่มเติม
ทำโปรแกรม HIFEM กี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
แนะนำทำโปรแกรม HIFEM 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์จะเริ่มเห็นผลลัพธ์
โปรแกรม Fat Freezing
โปรแกรม Fat Freezing คือ การสลายไขมันด้วยความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง เข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมันเท่านั้น และกำจัดออกจากร่างกายโดยการเผาผลาญตามธรรมชาติ
หลักการทำงานของโปรแกรม Fat Freezing
เครื่อง Fat Freezing ทำงานโดยการปล่อยความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง เข้าไปแช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ เมื่อเซลล์ไขมันเจอความเย็นจะเกิดการแข็งตัว เพราะไวต่ออุณหภูมิเป็นพิเศษ หลังจากนั้นเซลล์ไขมันจะเสื่อมสภาพ และถูกเม็ดเลือดขาวขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ
โปรแกรม Fat Freezing ดูแลรูปร่างจุดไหนได้บ้าง ?
- หน้าอก
- หน้าท้อง
- ต้นแขน
- ต้นขา
- สะโพก
จุดเด่นของโปรแกรม Fat Freezing
- เป็นเครื่องที่เน้นสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินโดยเฉพาะ และไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ
- มีทั้งหมด 4 หัวที่สามารถทำงานได้พร้อมกัน ทำให้สลายไขมันหลายๆ จุดพร้อมกันในครั้งเดียวได้เลย
- สามารถสลายไขมัน ลดสัดส่วนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้น
โปรแกรม Fat Freezing เหมาะกับใคร ?
- คนที่อยากลดสัดส่วนเฉพาะจุด
- คนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือมีข้อจำกัด
- คนที่ออกกำลังกายแล้วแต่สัดส่วนบางจุดไม่ลด
- คนที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้น
เตรียมตัวก่อนตัดสินใจทำโปรแกรม Fat Freezing
การทำโปรแกรม Fat Freezing ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย สามารถทานอาหาร ออกกำลังก่อนทำได้ตามปกติ
ดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Fat Freezing
หลังการทำโปรแกรม Fat Freezing สามารถใช้ชีวิต และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น แต่แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายให้ขับของเสียออกมา
ทำโปรแกรม Fat Freezing กี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
ผลลัพธ์ของโปรแกรมจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ และไขมันส่วนเกินในบริเวณนั้นๆ โดยจะเห็นผลลัพธ์หลังจากทำประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังจากเซลล์ไขมันที่โดนแช่แข็งถูกกำจัดออกจากร่างกายแล้ว
ทำไมต้องเลือกดูแลรูปร่าง สัดส่วนที่ Attitude Clinic
- ดูแลทุกเคสการรักษาโดยคุณหมอ วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบให้เข้ากับปัญหา และบริเวณที่คนไข้อยากแก้ไข
- มีการถ่ายภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังรักษา ให้คุณได้เห็นผลลัพธ์ของการรักษาได้ชัดเจน
- เลือกใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน จัดจำหน่ายจากทางบริษัทโดยตรง
