รักษาสิว

Acne Treatment

ปัญหาสิว และหลุมสิว จัดเป็นปัญหาของผิวหน้าอันดับต้น ๆ ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของใครหลายคน สิวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหนอง หรือสิวหัวช้าง ทำให้เกิดความกังวลใจ และขาดความมั่นใจ บางคนเลือกทางออกด้วยวิธีที่เข้าใจผิดคือ การบีบสิวด้วยตัวเอง ยิ่งทำให้ผิวหน้าโดนทำร้ายมากขึ้นไปอีก ก่อให้เกิดรอยแดงจากการอักเสบ จนกลายเป็นรอยสิวหรือหลุมสิวบนใบหน้าอย่างถาวร

ประเภทการรักษาสิว

สิว : เทคโนโลยี PDT และ IPL
รอยดำและรอยแดงจากสิว : เทคโนโลยี IPL และ Nd:YAG laser
หลุมสิว : เทคโนโลยี TCA CROSS และ Fractional RF
แผลเป็นคีลอยด์ : เทคโนโลยี TAC intralesional injection
รูขุมขนกว้าง : เทคโนโลยี Carbon Laser Peel และ Fractional RF

เทคโนโลยี PDT และ IPL

เทคโนโลยีรักษาสิว

Photodynamic therapy (PDT) คือการรักษาโดยใช้แสงที่มีความยาวคลื่นจำเพาะและกระตุ้นให้เกิดการรักษาเฉพาะจุดในระดับเซลล์ มีผลฆ่าเชื้อก่อสิว ลดการอักเสบ ลดหน้ามัน และกระตุ้นการสมานตัวของผิวหน้า
Intense pulsed light (IPL) เป็นการรักษาด้วยลำแสงเข้มข้นที่มีความยาวคลื่นแสงในหลายระยะ ทำให้อ่อนโยนกับผิวหน้ามากกว่าเมื่อเทียบกับแสงเลเซอร์ จุดเด่นที่เป็นพิเศษและไม่เหมือนใครของคลินิกเรา คือ หมอหนึ่งใช้เทคนิคการรักษาด้วยการทำ IPL ทั่วหน้าซ้ำ 3 ครั้ง พร้อมปรับค่าความยาวคลื่นของลำแสง ด้วยการเริ่มต้นอย่างอ่อนโยน แล้วค่อยๆ ปรับเพื่อล็อกเป้าหมายให้ตรงจุดการรักษา เทคนิคนี้จะมีผลช่วยลดโอกาสเกิดการระคายเคืองของผิวได้เป็นอย่างดี นำไปสู่ผลการรักษาที่ดีขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เทคโนโลยี IPL และ Nd:YAG laser

เทคโนโลยีรักษารอยดำและรอยแดงจากสิว

นอกจากการใช้ IPL แล้วเรายังเพิ่มเทคนิคการรักษาด้วย Neodymium-doped yttrium aluminium garnet laser (Nd:YAG laser) ซึ่งเป็นการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร ทำให้สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้ลึกกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น เพื่อกำจัดรอยดำที่ฝังลึก นอกจากนี้ ในโหมด Q-switched Nd:YAG ยังสามารถสร้างความยาวคลื่นได้เป็น 2 ช่วง คือช่วงอินฟราเรด 1064 นาโนเมตร (ลดรอยดำ) และลำแสงที่สองที่ความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษารอยโรคที่ผิวหนังชั้นบนได้ดี จึงมีผลปรับผิวให้หน้าใส ลดความมัน และช่วยกระชับรูขุมขน

เทคโนโลยี TCA CROSS และ Fractional RF

เทคโนโลยีรักษาหลุมสิว

คือแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบขนาดใหญ่ ทำให้เนื้อผิวถูกทำลายมาก การฟื้นตัวสร้างเนื้อเยื่อทดแทนและคอลลาเจนไม่กลับมาเท่าเดิม เนื้อผิวจึงมีปริมาณที่ลดลง เห็นเป็นหลุม วิธีการรักษา หมอหนึ่งจะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นใหม่ ด้วยเทคนิค TCA CROSS ซึ่งเป็นการรักษาเฉพาะจุดโดยใช้สาร trichloroacetic acid (TCA) ทำให้เนื้อเยื่อมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เข้ามาเติมเต็มหลุมสิว ทำให้ดูตื้นและเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเครื่อง VNC Fractional RF ที่เป็นการนำพลังงานคลื่นวิทยุผสมผสานให้เป็น Fractional ทำลายผิวหน้าน้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับคนที่มีปัญหารอยหลุมสิว

เทคโนโลยี TAC intralesional injection

แผลเป็นคีลอยด์

นอกจากหลุมสิวแล้ว แผลเป็นจากสิวก็อาจเป็นอีกแบบหนึ่ง คือ นูนเด่นเป็นคีลอยด์ ซึ่งเกิดจากการสร้างคอลลาเจนทดแทนที่มากเกินไป เทคนิคการรักษาคือ TAC intralesional injection ด้วยการใช้ยาเข้าไปลดการอักเสบ ลดการสร้างคอลลาเจนใหม่ และกระตุ้นการสลายคอลลาเจนที่มากเกินไปจนทำให้แผลนูน แผลเป็นคีลอยด์จึงยุบลงได้ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยรักษาแผลเป็นคีลอยด์ด้วย TAC intralesional injection ร่วมกับ Fraction RF จะช่วยให้ผิวไม่ลอก และเกิดแผลน้อยที่สุด

เทคโนโลยี Carbon Laser Peel และ Fractional RF

เทคโนโลยีรักษารูขุมขนกว้าง

รูขุมขนกว้างมักสัมพันธ์กับการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปของต่อมไขมัน ทำให้เพิ่มโอกาสการอุดตันและเกิดสิว Carbon Laser Peel เป็นการผลัดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนด้วย carbon solution แล้วตามด้วยแสงเลเซอร์เข้าไปทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมัน และสิ่งสกปรกอุดตันทั้งหลาย หลุดสลายไป พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าสะอาด เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ อย่างปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักหน้า อีกทั้ง The One Clinic ยังมีเทคโนโลยี Fractional RF ที่ทำลายผิวหน้าด้านบนน้อย มีผลต่อผิวหนังด้านลึก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ริ้วรอยลดน้อยลง ช่วยให้ผิวมีความตึงกระชับมากขึ้น ผิวเต่งตึง อิ่มฟูขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

เลเซอร์สิวเจ็บไหม?

การเลเซอร์สิว ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด จึงไม่ต้องกังวลในส่วนนี้

ทำเลเซอร์รักษาสิวดียังไง?

เพราะการทำเลเซอร์ช่วยจัดการแก้ไขกลไกการเกิดสิวได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเชื้อ ลดความมัน ผลัดชั้นผิวและลดการอุดตัน กระตุ้นการสมานตัว และลดโอกาสการเกิดแผลเป็นและหลุมสิว

คำถามที่พบบ่อย

สิวอุดตัน และ สิวผด ต่างกันอย่างไร?

สิวอุดตันและสิวผด ทั้งคู่เป็นสิวที่ไม่เจ็บเหมือนกัน แต่ต่างกันที่สิวผดจะเป็นเม็ดเล็กๆ และขึ้นติดๆ กันเป็นจำนวนมากในบริเวณเดียวกัน โดยเฉพาะที่หน้าผาก อาจมีผื่น อาการคัน หรือแสบร่วมด้วย สิวผดมักเกิดจากปฏิกิริยาระหว่างเชื้อรา แสงแดด ต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อ จึงทำให้มักจะเห่อขึ้นในหน้าร้อน อีกหนึ่งความแตกต่างคือ สิวผดจะกดออกไม่ได้ ในขณะที่สิวอุดตันกดออกได้

ความถี่ในการยิงเลเซอร์รักษาสิว ควรทำกี่ครั้ง?

การอดนอน การนอนหลับที่ไม่ได้คุณภาพ และการเกิดสิวอาจมีสาเหตุร่วมกัน คือ ความเครียด ในบางกรณีโดยเฉพาะในวัยรุ่น การเป็นสิวก็ส่งผลให้ขาดความมั่นใจ และลดการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งย้อนกลับไปส่งผลให้เกิดความเครียด กลายเป็นปัจจัยเลวร้ายที่เกี่ยวเนื่องกัน และส่งผลร้ายต่อเนื่องยิ่งขึ้นไปอีก